
บริษัท เอเชียกรีน เอนเนอจี (AGE) ประกอบธุรกิจ 2 ขา โดยขาหลักในปัจจุบัน หรือธุรกิจเรือธง คือ “ธุรกิจถ่านหิน”..ที่บริษัทประกอบธุรกิจเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายถ่านหินสะอาดคุณภาพสูง ได้แก่ ถ่านหินบิทูมินัส จากประเทศอินโดนีเซีย เพื่อจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมี ”ธุรกิจบริการที่ได้พัฒนาและขยายการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์” เพื่อใช้สนับสนุนธุรกิจถ่านหินของบริษัทฯ และให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไป ประกอบด้วย..
บริการขนส่งทางน้ำ..บริษัทฯ มีเรือลำเลียงท้องแบน (เรือโป๊ะ/Lighter) เป็นของบริษัท และยังมีเครือข่ายเรือพันธมิตรเข้าร่วม ให้บริการขนส่งและลำเลียงสินค้าทั้งขาเข้า และขาออกจากรถบรรทุก เรือบรรทุกสินค้าประเภทเรือเทกอง และเรืออเนกประสงค์ (Bulk Carriers and Conventional Vessel) โดยผ่านทางแม่น้ำสายหลักภายในประเทศ
บริการขนส่งทางบก..มีระบบการบริหารจัดการขนส่งทางบก เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ภายใต้การบริหารงานของบริษัท เอจีอี ทรานสปอร์ต ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ AGE ให้บริการขนส่งสินค้าทางรถทั่วประเทศ โดยรถสิบล้อ รถพ่วง และรถบรรทุกพื้นเรียบ
โดยได้คัดสรรบริษัทขนส่งที่มีมาตรฐานตรงตามข้อกำหนดของบริษัท เพื่อสามารถจัดส่งสินค้าได้ทันกําหนดเวลา มีความปลอดภัย ภายใต้แนวทางการปฏิบัติอย่างยั่งยืนของคู่ค้า
บริการท่าเรือ..ตำแหน่งที่ตั้งท่าเรือของบริษัทฯ อยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ซึ่งเป็นตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพ และพื้นที่บริเวณท่าเรือมีการเทพื้นซีเมนต์ ส่งผลให้การขนถ่ายสะดวก รวดเร็ว สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ทันเวลา
โดยนอกจากใช้ดำเนินการขนถ่ายถ่านหินของบริษัทแล้ว ยังเปิดให้บริการท่าเทียบเรือสินค้าเพื่อขนถ่ายสินค้าแก่ลูกค้าภายนอกอีกด้วย โดย AGE มีท่าเรือเป็นของบริษัท จำนวน 2 ท่า สามารถรองรับการขนถ่ายได้มากถึง 3,250 ตัน/วัน/ท่า ปริมาณการขนถ่ายหน้าท่าเท่ากับ 6,500-7,000 ตัน/วัน
บริการคลังสินค้า..ปัจจุบันบริษัทมีคลังสินค้า โรงคัดแยกถ่านหิน และท่าเรือตั้งอยู่ที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา พื้นที่กว่า 332-3-33.3 ไร่ มีการเทพื้นคอนกรีตทั่วบริเวณคลังสินค้าและลานกองเก็บ เพิ่มความสะดวกให้กับรถบรรทุกขณะเข้าไปขนถ่ายสินค้า
อีกทั้งทำคันดินรอบคลังสินค้าและปลูกต้นไม้รอบคันดิน รวมทั้งระบบสเปรย์น้ำรอบคลังสินค้า เพื่อช่วยดักจับฝุ่นละอองที่จะออกสู่ชุมชน เป็นต้นแบบของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
อาจกล่าวได้ว่า ธุรกิจโลจิสติกส์ กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งเรือธง ซึ่งจะเป็นผลดีกับเอเชีย กรีน ที่มีการกระจายพอร์ตของธุรกิจเพื่อลดความเสี่ยงการพึ่งพารายได้จากธุรกิจจำหน่ายถ่านหินแต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นธุรกิจซื้อมาขายไป (เทรดดิ้ง) อีกทั้งถ่านหินเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ราคามีการเคลื่อนไหวตามตลาดโลก
“พนม ควรสถาพร” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี กล่าวว่า “บริษัทยังอยู่ระหว่างการขยายการให้บริการในส่วนของธุรกิจโลจิสติกส์ ด้านขนส่งทางน้ำและทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้า มากขึ้น โดยได้ดำเนินการสั่งต่อเรือเพิ่มอีก 16 ลำ หลังจากได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ในช่วงที่ผ่านมา 342.40 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยส่งมอบได้ทั้งหมดในปี 2563 ส่งผลให้บริษัทมีจำนวนกองเรือลำลียง เพิ่มขึ้นเป็น จำนวน 40 ลำ จากปี 2562 ที่มีเรือลำเลียงจำนวน 24 ลำ”
ทั้งนี้ การต่อเรือลำลียงจำนวน 16 ลำ ทำให้สามารถมีขนาดระวางบรรทุก รวม 41,600 ตัน สำหรับขนส่งถ่านหินของบริษัทและให้บริการขนส่งทางน้ำแก่ลูกค้าภายนอก
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายท่าเรือรองรับการขนส่งสินค้าเพิ่มเป็น 3 ท่า จากปัจจุบันมี 2 ท่า โดยท่าเรือที่ 3 อยู่ระหว่างการพัฒนาพื้นที่ บนพื้นที่ 300 กว่าไร่ ที่อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่ง มีทั้งลานเก็บกองถ่านหิน ท่าเรือ ที่สามารถรองรับการขยายการลงทุนได้อีกจำนวนมาก โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาส 4/62 เพื่อรองรับการให้บริการเรือลากจูงที่เพิ่มขึ้นตามแผนการส่งมอบเรือในช่วงปี 2563
มาดูที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2562 เอเชีย กรีน มีรายได้รวม 1,715 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากธุรกิจขายถ่านหินอยู่ที่ 1,611.3 ล้านบาท
และรายได้จากธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำ และทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้า 103.7 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 71.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก มีรายได้รวม 3,365.3 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7.5 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม อยู่ที่ 3,639.9 ล้านบาท มีปริมาณขายถ่านหิน อยู่ที่ 1.45 ล้านตัน ขณะที่มีกำไรสุทธิ 151.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 93.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากมาตรการลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการลดต้นทุนโลจิสติกส์ทั้งทางบกและทางน้ำจากการใช้บริการของบริษัทในเครือ
“พนม” กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังว่า ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันจากหลายๆ ด้าน ทั้งปัจจัยเศรษฐกิจ สงครามการค้า และการแข่งขัน แต่บริษัทฯ ก็ยังคงรักษาระดับมาตรฐาน รวมถึงยังคงเน้นเจาะตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม และกัมพูชา อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีคำสั่งซื้อถ่านหินที่รอการส่งมอบให้กับลูกค้าแล้วกว่า 1 ล้านตัน
โดย..ซิลลิ่ง
