
“เชื่อมั่นไทย เบอร์ 1 ของภูมิภาคมีศักยภาพและความพร้อมสู่การเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัล”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันพุธที่ 7 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วย นายอเดบาโย โอกุนเลซี (Mr. Adebayo Ogunlesi) ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ พาร์ตเนอร์ส (Global Infrastructure Partners: GIP) และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือแนวทางยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ของประเทศไทย โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าร่วมด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีต่อความร่วมมือระหว่างเครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัท GIP ในด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทย โดยเฉพาะด้านศูนย์ข้อมูล (Data Center) เชื่อมั่นว่าจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ของไทย โดยรัฐบาลให้ความสำคัญและพร้อมสนับสนุนการลงทุนในด้านนี้เพื่อการพัฒนาประเทศให้ทันกับยุคดิจิทัลในโลกสมัยใหม่

ประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี และเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางดิจิทัลและ AI ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกต่างพากันเข้ามาลงทุนในไทย ทั้งนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ยืนยันความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับรัฐบาลไทย และพันธมิตรระดับนานาชาติอย่าง GIP เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทยให้ตอบโจทย์การเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของภูมิภาค

ขณะที่ประธานบริษัท GIP ได้แนะนำภาพรวมของบริษัท GIP ซึ่งเป็นบริษัทที่ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำของเครือ BlackRock หนึ่งในผู้ให้บริการด้านการลงทุน ที่ปรึกษาทางการเงิน และโซลูชันการบริหารความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยทั้ง GIP และ BlackRock มีสำนักงานอยู่ในไทย และเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยประธานบริษัท GIP เน้นย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทย ซึ่งสามารถผลักดันเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลที่สำคัญของภูมิภาคได้

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ของประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาประเทศ รวมถึงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ของไทย ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน เพิ่มความสามารถทางการแข่งขันในระดับโลก ซึ่งรัฐบาลได้สร้างความร่วมมือกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนชั้นนำ อาทิ Microsoft, Google และ TikTok โดยนายกรัฐมนตรีต้องการเพิ่มพูนความร่วมมือกับบริษัท GIP ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญและการฝึกอบรมคนไทย โดยอาจพิจารณาเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการศึกษากับมหาวิทยาลัยของไทยเพิ่มเติม ซึ่งประธานบริษัท GIP ยินดีและพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่

ประธานบริษัท GIP ชื่นชมวิสัยทัศน์และแนวนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ เพื่อการพัฒนาประเทศไทย (National AI Committee) โดยเชื่อมั่นว่า ไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลที่สำคัญของภูมิภาคได้ เมื่อพิจารณาจากโครงสร้างพื้นฐานและองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ไทยมีความได้เปรียบในทุกด้าน รวมถึงไทยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ และรัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประธานบริษัท GIP มองว่าไทยเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาค และพร้อมมีบทบาทและความร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างเต็มที่

ขณะเดียวกัน เพจ BT Beartai แบไต๋ ซึ่งเป็นเพจด้านการเงินการลงทุน ได้เผยแพร่สาระสำคัญของการที่ GIP เข้าพบนายกรัฐมนตรีในวันนี้ด้วยว่าเป็นโอกาสการลงทุนขนาดใหญ่ที่ GIP จะมาลงทุนในไทยเพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยเงินลงทุนกว่า 175,000 ล้านบาท โดยเพจแบไต๋ ได้กล่าวว่า
“เรื่องใหญ่เช้านี้ ! GIP BlackRock กองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลงทุน 105,000 ถึง 175,000 ล้านบาทในไทย! ผ่าน true®️IDC เพื่อสร้าง GigaData Hub ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่แบบขยายได้ตลอด เพิ่มกำลังไฟฟ้าได้ และเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด ยกระดับศักยภาพ Data Center ในไทยทั้ง Cloud และ AI ให้ใช้งานได้ดีมากในประเทศ และรองรับผู้ใช้จากทั่วโลก
ขณะนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล คุณอาเดบาโย (Adebayo Ogunlesi) ประธาน Global Infrastructure Partners กำลังพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เพื่อเปิดมิติสัมพันธ์การลงทุนในไทยต่อไป
ดีลนี้นำมาโดย คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วยคุณซิกเว่ เบรกเก และคณะ”
นอกจากนี้ การเข้ามาลงทุนครั้งสำคัญนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเริ่มต้นจากการที่นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 ได้ไปพบ Mr. Larry Fink CEO กลุ่มบริษัท Blackrock ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำในการบริหารการเงินและการลงทุนของโลก เพื่อชักชวนให้มาลงทุนในประเทศไทย

โดยนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ในขณะนั้น ก็ได้โพสต์ข้อความผ่าน X (Twitter) ว่าได้มีโอกาสพบกับ ลาร์รี ฟิงก์ ซีอีโอกลุ่มบริษัท BlackRock ผู้นำในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ระดับโลก เพื่อหารือแนวทางการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะการสนับสนุนธุรกิจประเภทพลังงานสะอาดและพันธบัตรความยั่งยืน
กลุ่ม Black Rock ในขณะนั้นก็กล่าวเช่นกันว่า สนใจในการลงทุนในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย เพราะเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพสูงและมีแผนการลงทุนในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง และจากการพบปะกันของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ในครั้งนั้นก็ทำให้มีการพบปะพูดจากันอีกหลายครั้งเพื่อนำมาสู่การลงทุนของ Black Rock ล่าสุดในครั้งนี้