เมื่อวานซืน (28 ส.ค. 62) พนักงานบริษัทจีเอ็ม หรือ “เจอเนอรัล มอเตอรส์ ไทยแลนด์” บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม อิสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง ทั้งพนักงานประจำและพนักงานชั่วคราวได้ถูกทางบริษัทเลิกจ้างแบบฟ้าผ่าประมาณกว่า 300 คน
เรียกว่า..ทำให้อีกหลายร้อยครอบครัวได้รับความเดือดร้อนไปด้วย ไม่เฉพาะพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง แต่ยังรวมไปถึงรถรับ-ส่งพนักงาน หอพัก พ่อค้า แม่ค้าในย่านนั้น ฯลฯ ย่อมกระทบกระเทือนเป็นลูกโซ่
ไม่เฉพาะพนักงานบริษัทจีเอ็มฯ แต่ตอนนี้คนทำงานแบงก์ ทั้งธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาต กำลังเสียวสันหลังวาบๆ เพราะถ้ามีการควบรวมกิจการ 2 ธนาคาร ขึ้นมาในเร็วๆ นี้ จะมีหนุ่ม-สาวแบงก์ ตกงาน 4-5 พันคน แล้วคนเหล่านี้จะไปทำงานอะไร เพราะทุกธนาคารมีการลดจำนวนสาขา ลดคนกันทั้งนั้น
วันก่อน สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) เผยสถิติการทำงานของคนไทยประจำเดือน ก.ค. 62 พบว่า ภาวะการทำงานของประชากรเดือน ก.ค. 62 ผู้มีอายุ 15 ปีขึ้นไป มีจำนวน 56.60 ล้านคน เป็นผู้ที่พร้อมทำงาน 38.09 ล้านคน เป็นผู้มีงานทำ 37.62 ล้านคน ผู้ว่างงาน 4.0 แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล 3.0 หมื่นคน ส่วนผู้ที่ไม่พร้อมทำงาน 18.51 ล้านคน ได้แก่ แม่บ้าน นักเรียน คนชรา จำนวนผู้มีงานทำมี 37.62 ล้านคน
โดยจำนวนผู้มีงานทำ 37.62 ล้านคน ลดลงจากปี 61 จำนวน 1.01 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นการลดลงในสาขาการขายส่ง-ขายปลีก การซ่อมยานยนต์ และรถจักรยานยนต์ 2.6 แสนคน สาขากิจกรรมบริการด้านอื่นๆ 1.2 แสนคน การเงิน ประกันภัย 7.0 หมื่นคน, ด้านสุขภาพ สังคมสังเคราะห์ 6.0 หมื่นคน สาขาการผลิตและการก่อสร้าง ลดลงเท่ากันที่ 5.0 หมื่นคน
ขณะที่จำนวนการว่างงาน ในเดือน ก.ค. 62 มีทั้งสิ้น 4.36 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.1 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 61 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 5.4 หมื่นคน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือน มิ.ย.62 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 7.3 หมื่นคน
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงานกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่า อัตราว่างงานเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 1.0 เป็นร้อยละ 1.1 เทียบกับเดือนที่ผ่านมา อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 0.9 เป็นร้อยละ 1.1 นอกจากนี้ยังพบว่า เพศชาย มีอัตราการว่างงานสูงกว่าเพศหญิง โดยอัตราการว่างงานของเพศชาย ร้อยละ 1.2 และเพศหญิง ร้อยละ 1.1
สรุปคือเดือน ก.ค. ปีนี้ มีผู้ว่างงาน 4.36 แสนคน มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 5.4 หมื่นคน
มาดูข้อมูลการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) เดือน ก.ค.62 ปรากฎว่า ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังจากเดือน มิ.ย. ติดลบไป -5.6% ส่วนเดือน ก.ค. ติดลบ -9.1% เฉลี่ย 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค. 62) ติดลบ -0.5%
แวต 7% รวมอยู่ในราคาของสินค้าอุปโภค บริโภค ที่ประชาชนต้องซื้อมาใช้ในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อเก็บแวตได้ลดลงและติดลบ แสดงให้เห็นว่า..”กำลังซื้อในประเทศชะลอตัว ผู้คนจับจ่ายใช้สอยกันน้อยลง”
มาดูกันว่า..”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำรัฐประหารเข้ามาบริหารประเทศอย่างต่อเนื่องมา 5 ปี (58-62) ทำงบประมาณขาดดุล ต้องกู้เงินมาโปะงบประมาณติดลบไปแล้ว 2.09 ล้านล้านบาท เรียกว่า แจกจ่ายเงินผ่านตำบล และหมู่บ้านกันอย่างมโหฬาร”
รวมทั้งแจกเงินผ่านบัตรคนจน อีก 14.5 ล้านคน แจกไปแล้วก่อนเลือกตั้ง และหลังเลือกตั้งก็แจกเงินผ่านบัตรคนจนอีกเมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมา แถมยังจะแจกเงินให้ไปเที่ยวเมืองรองอีกคนละ 1 พันบาท
เรียกว่าแจกแหลก! ราวกับว่ารัฐบาลเป็น “เถ้าแก่ใหญ่” บริหารประเทศดีเยี่ยม เศรษฐกิจดีมาก จัดงบประมาณแบบเกินดุล แต่เปล่าเลย “กู้” เงินมาแจกทั้งนั้น..
และปี 63 จะทำงบประมาณแบบขาดดุลอีก 4.5 แสนล้านบาท คาดว่า ถ้ารัฐบาลอยู่ครบเทอม 4 ปี จะต้อง “กู้” มาโปะงบประมาณอีก 2 ล้านล้านบาท
นโยบาย “เฮลิคอปเตอร์ มันนี่” หรือ ”การโปรยเงินลงมาจากฟ้าไปสู่ประชาชน” นั้น สามารถทำได้ในกรณีรัฐบาลจัดเก็บภาษีได้ทะลุเป้า เพราะเศรษฐกิจดี จัดทำงบประมาณประเทศได้แบบสมดุล หรือเกินดุล
แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ สร้างหนี้ไว้เพียบ! เพราะ “กู้ๆ” เงินมาแจกแหลก!
เชื่อว่าวูบเดียวหาย! ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ผงกหัวขึ้นมาหรอก แต่คนไทยต้องตามใช้หนี้ทั้งต้นและดอกเบี้ยกันหัวโต!!
เสือออนไลน์