
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 อนุมัติหลักการมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการแปลงเป็นดิจิทัล (Digital Transformation) ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตามร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า “กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากร มีนโยบายส่งเสริมให้ SMEs ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานและการบริหารจัดการธุรกิจ จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการแปลงเป็นดิจิทัล (Digital Transformation) ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ต่อคณะรัฐมนตรี โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งมีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท สามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่า สำหรับค่าซื้อหรือค่าจ้างทำหรือค่าใช้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์อัจฉริยะ หรือบริการด้านดิจิทัลที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีบริการดิจิทัลของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล แต่ไม่รวมถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ เฉพาะในส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งจ่ายไปตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการมาตรการภาษีนี้ (วันที่ 24 มิถุนายน 2568) ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2570”

อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “มาตรการภาษีนี้จะทำให้ SMEs มีศักยภาพในการดำเนินกิจการและขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น รวมทั้งผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทยมีการพัฒนาสินค้าและบริการด้านดิจิทัลที่มีคุณภาพ อันจะส่งผลให้ตลาดสินค้าและบริการดิจิทัลของไทยเติบโตเพิ่มขึ้นตามมา”
หากมีข้อสงสัย สอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161