รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แจกเงินผ่านบัตรจน 14.5 ล้านคน ไปแล้ว 2 ครั้ง ตามมาด้วยการอัดฉีดผ่านโครงการชิม ช้อป ใช้ อีกคนละ 1,000 บาท ประกอบกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ล่าช้าไป 2 เดือน
ตอนนี้ดูจากสภาพปัญหาทางเศรษฐกิจในตอนนี้แล้ว น่าจะไหลทรุดลงไปไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ ปัญหาโรงงาน บริษัทห้างร้าน ไม่จ่ายเงินเดือนพนักงานโผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ ไหนจะปัญหา”การฆ่าตัวตาย” เพราะปัญหาเศรษฐกิจและภาระหนี้สินล้นพ้นตัว มีให้เห็นเกือบทุกวัน
วันก่อน นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่า ผลพวงจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ที่ส่งผลกระทบเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยปี 62 มีโอกาสติดลบ 1.5-2%
สะท้อนถึงการจ้างแรงงานของไทยเริ่มชะลอลงตามไปด้วย โดยเฉพาะตลาดแรงงานในภาคการผลิต การผลิตเพื่อส่งออก โลจิสติกส์ ค้าปลีก ค้าส่งที่ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัจจุบันจึงมีสัญญาณการจ้างงานลดลง ที่น่าห่วงคือ “นักศึกษาจบใหม่” ที่กำลังจะเข้าสู่ระบบแรงงานช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.63 อีกประมาณ 5.24 แสนคน คงประสบปัญหาภาวะ ”ว่างงานสูง” ขึ้น
ขณะที่แนวโน้มการปิดโรงงานและการเลิกจ้างสูงขึ้น เห็นได้จากช่วงที่ผ่านมามีโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม จ.สมุทรสาคร ปิดกิจการและเลิกจ้างคน รวมถึงภาคบริการมีการเลิกจ้างพนักงานจํานวนมากโดยเฉพาะโรงงานที่ผลิตเพื่อส่งออกโดยตรงในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ต.ค.62 สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้สรุปผลการสำรวจภาวการณ์ทำงานของประชากรเดือน ก.ย. 62 พบว่า จำนวนผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป 56.64 ล้านคน เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงานหรือผู้ที่พร้อมจะทำงาน 37.72 ล้านคน ส่วนผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงาน หรือผู้ที่ไม่พร้อมทำงานมีจำนวน 18.92 ล้านคน
โดยผู้ที่พร้อมทำงาน ประกอบด้วย ผู้ที่มีงานทำ 37.21 ล้านคน ผู้ว่างงาน 3.85 แสนคน ผู้ที่รอฤดูกาล 1.2 แสนคน
เมื่อพิจารณาอัตราการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มวัยเยาวชนหรือผู้มีอายุ 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานร้อยละ 6.5 โดยปกติในกลุ่มนี้ อัตราการว่างงานจะสูง ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ อายุ 25 ปีขึ้นไป มีอัตราการว่างงาน ร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 กลุ่มเยาวชนมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 5.1 เป็นร้อยละ 6.5
ถ้าจำแนกตามระดับการศึกษาที่สำรวจพบว่า ระดับอุดมศึกษา ว่างงานสูงถึง 1.73 แสนคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า ว่างงาน 8.4 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ว่างงาน 7.7 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา ว่างงาน 4.2 หมื่นคน และกลุ่มที่ไม่มีการศึกษาหรือต่ำกว่าประถมศึกษา ว่างงาน 9.0 พันคน โดยสรุปแล้วช่วงเดือน ก.ย.62 มีคนจบปริญญาตรี ว่างงานมากที่สุดเกือบ 2 แสนคน ว่าอย่างนั้นเถอะ
เมื่อคนตกงานกันมากๆ สุดท้ายก็ไปข้องแวะกับอบายมุข ทั้งหวย การพนัน ยาเสพติด ตามมาด้วยการก่อคดีลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ปล้นทรัพย์ กลายเป็นปัญหาและภาระของสังคมเข้าไปอีก
ส่วนใครที่หาทางออกให้กับตัวเองไม่ได้ ก็ต้องคิดสั้นฆ่าตัวตายหนีปัญหาชีวิต ฮิตๆ กันมากช่วงนี้คือใช้เตาอั้งโล่ใบเล็กๆ จุดรมควันฆ่าตัวตายในรถยนต์ เห็นแล้วรู้สึกว้าเหว่กับโชคชะตาชีวิตคนไทยในยามนี้!!
เสือออนไลน์