กรณีศึกษาเรื่องการแตกไลน์ธุรกิจเพื่อความอยู่รอด เกิดขึ้นมากมายในหลากหลายธุรกิจ ทั้งนี้เป้าหมายก็คือ เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ เช่นเดียวกับ “ธนะพน เขียวหวาน “กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเฟรนด์ คอสเมติกส์ จำกัด ที่ฉายภาพความเป็นมาสู่แบรนด์ “บีเฟรนด์ - Befriends” ภายใต้สโลแกน “เพื่อนใช้ดี บอกต่อ” ว่า
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงจากพลังโซเชียลมีเดีย ที่เข้ามามีผลกับการดำเนินชีวิตของสังคมคนเมือง กับทุกๆ อาชีพ ทำให้หลายๆ ธุรกิจต้องปรับตัวครั้งใหญ่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือธุรกิจหลักของบริษัทที่ทำอยู่ นั่นก็คือ ธุรกิจเกี่ยวกับออกาไนท์เซอร์ ที่ได้รับผลกระทบพอสมควร การจะให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด การแตกไลน์ธุรกิจเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก การทำธุรกิจใหม่เพื่อเสริมและทำควบคู่ไปกับธุรกิจที่มีอยู่ถือเป็นทางออกที่ดี
เพราะที่ผ่านมา ธุรกิจที่เคยทำมีรายได้ดี แต่การเติบโตค่อยๆ ลดลง เนื่องจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่นปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาทางการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ไปสู่สังคมโซเชียลมีเดีย ลูกค้าจำกัดงบในการทำกิจกรรม ลูกค้าสนใจช่องทางการตลาดใหม่ๆ ในขณะเดียวกันมองในมุมบริษัท จำนวนพนักงานยังมีเท่าเดิม รายจ่ายเท่าเดิม แต่รายรับลดลง และมีแนวโน้มจะลดลงต่อเนื่องหากไม่มีการปรับตัวปัญหาจะเกิดขึ้นกับพนักงาน และตัวบริษัทอย่างแน่นอน
การแตกไลน์สินค้า ในกลุ่มที่มองว่ายังมีศักยภาพ น่าจะเป็นทางออกที่ดี สำไหรับการแก้ไขรายได้ที่หายไปให้กลับคืนมา โดยที่บริษัท ไม่ต้องเพิ่มบุคลากร แต่เป็นการเพิ่มงานให้กับบุคคลกร เพิ่มรายได้ในช่องทางใหม่ให้กับบริษัทถือเป็นสิ่งที่จะรักษาบุคลากร และบริษัทให้เดินต่อไปได้
ถึงตรงนี้ถือว่า เป็นความโชคดีที่ผ่านมาทีมงานส่วนใหญ่ของบริษัทได้มีโอกาสทำงานคลุกคลีกับวงการสื่อมวลชนมาโดยตลอด ได้รู้จักได้พูดคุยศึกษากับหลายๆ ธุรกิจ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือธุรกิจเครื่องสำอาง ที่มีโอกาสได้รู้จักผู้ผลิตรายใหญ่ของประเทศ กว่า 5 ปี ที่ได้หารือ ปรึกษา ถึงแนวนวัตกรรมเครื่องสำอางที่เหมาะกับช่วงวัยต่างๆ และเหมาะกับผิวคนไทย ได้รับรู้ถึงการเติบโตของธุรกิจนี้ ซึ่งในปี 2562 ธุรกิจเครื่องสำอางและสกินแคร์ เป็นธุรกิจดาวรุ่งมาแรงอันดับ 3
และคาดว่า ในช่วงปี 2562-2566 จะเติบโตราว 7.14% ได้เห็นถึงกระแสการเติมโตในโซเชียลอย่างมาก ดารา นักแสดง เน็ตไอดอล คนมีชื่อเสียง โดดลงทำแบรนด์กันมากมาย การจะโดดเข้ามาในตลาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย สินค้าที่จะทำคุณภาพต้องดีจริง ได้มาตรฐาน และโดดเด่นด้วยตัววัตถุดิบ และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์เป้าหมายได้จริงๆ จึงระดมความเห็นเพิ่มจากหลากหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญคือ เพื่อนในวงการสื่อมวลชน ได้รับคำตอบว่าให้เดินหน้า และพร้อมที่จะสนับสนุนสินค้า บีเฟรนด์ เพื่อเพื่อนจึงเกิดขึ้น
“เพราะเราต้องการผลิตภัณฑ์ดีๆ เพราะเราต้องการให้เพื่อน และคนที่เรารักได้ใช้แล้วมีความสุขและเมื่อเราเจอแล้ว พิสูจน์แล้ว คุณภาพเทียบเท่าครีมเคาน์เตอร์แบรนด์ แต่ราคาถูกกว่าเกินครึ่ง เมื่อเรามีโอกาสให้สิ่งดีๆ กับเพื่อนๆ ได้ ทำไมเราจะไม่รีบทำ เป้าหมาย บีเฟรนด์ เราไม่ได้มองที่เงิน เราไม่ได้ต้องการแค่เงิน เราอยากเห็นเพื่อนมีความสุข ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ ในราคาย่อมเยา นี่ละคือความจริงใจที่เรามอบให้กับเพื่อน และคนที่รัก รอบๆ ตัวเรา ซึ่งคือลูกค้าสำคัญของเรา”
นวัตกรรมจากเยอรมัน และอเมริกา บีเฟรนด์นำเข้าวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม ที่เป็นส่วนประกอบวัตถุดิบที่รังสรรค์จากเทคโนโลยีชีวภาพของประเทศสหรัฐอเมริกา ผสานกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากเยอรมันนี Ineocell เป็นประจุบวก ซึ่งช่วยในการนำพาสารสำคัญที่ช่วยในการยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว ฟื้นฟู และชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ลงสู่ชั้น Epidermis (ผิวชั้นนอก) ซึ่งมีประจุลบได้โดยตรง และซึมซาบสู่เซลล์ผิวชั้นลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลที่ได้คือผิวเนียนนุ่ม ฟู เด้ง กระชับอย่างรวดเร็ว
กลุ่มเป้าหมายชาย-หญิงอายุ 40-60 +
จากพลังโซเชียลมีเดีย สังคมคนเมืองในยุคนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ใส่ใจในภาพลักษณ์ของตัวเอง จึงให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองกันมากขึ้น และกล้าที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีเพื่อเสริมให้บุคลิกภาพดูดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เริ่มประสบความสำเร็จ วัยตั้งแต่ 40-60+ ต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ต่อต้านริ้วรอยให้ดูอ่อนกว่าวัย ตรงนี้ บีเฟรนด์ จึงได้เลือกวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมนำเข้าจากอเมริกา ที่มีคุณสมบัติลบเลือนริ้วรอยตื้น-ลึก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“กลุ่มผู้สูงอายุ คืออีกกลุ่มซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญของบีเฟรนด์ เพราะอย่างที่ทราบกันว่าประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยผู้สูงอายุมีอายุ 60 ปีขั้นไป มีประมาณ 10.2 ล้านคน หรือคิดเป็น 15.4 % ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งผู้สูงอายุบางกลุ่มมีกำลังซื้อและมีความต้องการสินค้าประเภทเครื่องสำอางเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต รวมถึงการเสริมบุคลิกภาพที่ดี ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ต่อต้านริ้วรอยให้ดูอ่อนกว่าวัยได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก”
ในส่วนของราคาจำหน่าย เนื่องจากอยู่ในช่วงเปิดตัวสินค้า บริษัทได้วางจำหน่ายในราคาพิเศษทั้งหมด โดย “บี เฟรนด์ ไบร์ทเทนนิ่ง แอนตี้-เอจจิ้ง ครีม และ บี เฟรนด์ ไบร์ทเทนนิ่ง แอนตี้-เอจจิ้ง เซรั่ม จำหน่ายในราคา ชิ้นละ 790 บาท โปรโมชั่น แพคคู่ ราคา 1,400 บาท”
ส่วนขนาดพกพา ซึ่งเป็นอีกทางเลือกให้กลุ่มเป้าหมายง่ายต่อการตัดสินใจลองใช้ แพคคู่ราคาอยู่ที่ 600 บาท ส่วนครีมกันแดด ราคาพิเศษเพียง 180 บาท เท่านั้น
เป้าหมายทางธุรกิจต่อไป บริษัทจะมุ่งเน้นการคิดค้นสูตร การวิจัยนวัตกรรมใหม่ๆ ไปจนถึงกระบวนการผลิต เช่นเครื่องจักรที่ทันสมัย การใช้วัตถุดิบที่แตกต่าง ระบบควบคุมคุณภาพ พร้อมตอบสนองต่อวิถีชีวิตผู้บริโภคสมัยใหม่ และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับ และเพิ่มช่องทางการจำหน่าย ให้คลอบคลุมทั้งทางออนไลน์ และโมเดิร์นเทรด รวมทั้งตลาดเพื่อนบ้าน อย่างเช่น พม่า และกัมพูชา ต่อไป
สำหรับช่องทางการจำหน่ายในปัจจุบัน บีเฟรนด์ ผ่านร้านค้าออนไลน์ของบริษัทที่ Facebook เพจ ครีมเซรั่มลดริ้วรอยแห่งวัย by Be Friends หรือ Line : befriends21 โทรศัพท์ 081-6149334 , 092-5464585
หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจากฐานเศรษฐกิจ