เหตุการณ์ทหารยศ “จ่าสิบเอก” คลั่งกราดยิง 30 ศพ บาดเจ็บอีก 58 คน ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 63 ทำให้ “หม้อข้าว” ของคนในกองทัพสั่นสะเทือน!
เพราะก่อนหน้านี้ ไม่มีใครรู้ว่ามีธุรกิจ “เงินทอน” ในโครงการซื้อบ้านพักสวัสดิการของทหารชั้นผู้น้อย ซึ่งโครงการที่ว่านี้มีอยู่ทุกจังหวัด ที่มีหน่วยทหารตั้งอยู่
ต่อไปนี้นายพล-นายพัน ที่มีกระแสข่าวว่า ได้ผลประโยชน์จาก “เงินทอน” คงรับประทานกันยากหน่อย! เพราะขืนลุ่มล่ามทำกันอย่างย่ามใจ กดหัวทหารชั้นผู้น้อย ย่อมมีสิทธิ์เจอปัญหาได้เหมือนกัน
ถ้าไม่มีเหตุกราดยิง 30 ศพที่โคราช พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. คงไม่หลุดปากออกมาว่า จะกวาดล้างธุรกิจทหาร ไม่ว่าจะเป็นการทำสโมสรฟุตบอล การเอาที่ดินราชพัสดุที่อยู่ในความครอบครองของกองทัพไปหาผลประโยชน์
ไหนจะเป็นเรื่องสนามกอล์ฟ สนามม้า สนามมวย การจัดซื้อปืนพกสวัสดิการ ที่มีนายทหารเข้าไปพัวพัน ยาวไปจนถึงกรณีทหารที่เกษียณราชการแล้ว แต่ยังไม่ยอมย้ายออกจากบ้านหลวง..
ต่างๆ เหล่านี้ถือเป็น “หม้อข้าว” ของคนในกองทัพทั้งสิ้น ทั้งทัพบก-เรือ-อากาศ
ก่อนหน้านี้สังคมไทยรู้จักแต่อาชีพ “ทำนาบนหลังคน” ไม่ว่าจะเป็นการอมค่าอาหาร อมเบี้ยเลี้ยง อมเงินเดือนทหารชั้นผู้น้อย หรือแม้แต่อมกระสุน อมน้ำมัน ออกมาขายกันนอกค่าย ซึ่งทำกันอย่างยาวนาน
ปัจจุบันการอมค่าอาหาร อาจทำได้ยากขึ้น ประเภทที่ว่าทำอาหารเลี้ยงกำลังพลในเมนูที่มีแต่ “ผักเกรดซี” และวิญญาณสัตว์ เนื่องจากสมัยนี้กำลังพลมีการศึกษามากขึ้น และมีโทรศัพท์มือถือ ถ่ายภาพเมนูอาหารปล่อยออกไปในโลกออนไลน์เมื่อไหร่ “ผู้บังคับกองพัน” ซวยทันที!
“เสือออนไลน์” ได้ยินมาว่า เดี๋ยวนี้ “ผู้บังคับกองพัน” ส่วนใหญ่ใส่ใจเรื่องอาหารการกินของลูกน้องมากขึ้น จะ “อม” เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้ เพราะกลัวภาพหลุดออกไปข้างนอก จึงต้องเดินตรวจโรงครัวกันทุกวัน
ส่วนเรื่องการอมเบี้ยเลี้ยง อมเงินเดือน อมกระสุน อมน้ำมัน ยังดำเนินไปตามปกติ จะมีช่วงหลังๆนี่แหล่ะที่ลูกน้องกล้าออกมาโวยวายบ้างเมื่อถูกอมเบี้ยเลี้ยง และเงินเดือน
ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา งบประมาณกองทัพอู้ฟู่มาก จึงมีอาคารสถานที่สร้างใหม่จำนวนมาก ซึ่งบางครั้งดูแล้วสร้างกันหรูหราเกินความจำเป็น แต่ผู้นำเหล่าทัพจำเป็นต้องสร้าง! รวมไปถึงการทำประตู-รั้วค่าย อย่างอลังการ ใหม่เอี่ยมอ่อง ด้วยงบประมาณจำนวนมาก
ขนาดที่ราชพัสดุซึ่งอยู่ในความครอบครองของแต่ละเหล่าทัพ หลายแห่งยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่ และมีสภาพเป็นป่า แต่ก็สร้างรั้วกำแพงปูนอย่างแข็งแรง ล้อมพื้นที่ป่าไว้อย่างนั้นแหล่ะ ทำเหมือนว่าประเทศนี้ร่ำรวยมาก
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็น “หม้อข้าว” เป็นผลประโยชน์ของคนในกองทัพที่มีมาอย่างช้านาน ดังนั้นต่อให้ “10 พล.อ.อภิรัชต์” ก็ปัดกวาดเรื่องเหล่านี้ให้สะอาดขึ้นไม่ได้
“เสือออนไลน์” เคยคุยกับนายกรัฐมนตรีที่มาจากพลเรือน เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของบรรดา “นายพล” ทั้งหลาย นิยมจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ ทั้งๆ ที่หลายเรื่องไม่ใช่สิ่งจำเป็นเร่งด่วน เช่น การจัดซื้อเสื้อผ้า หมวก เข็มขัด และรองเท้าทหาร
แต่คนพวกนี้ต้องการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษทั้งหมด และไม่มีคู่เทียบราคา ส่วนบริษัทคู่ค้าก็หน้าตาเดิมๆ วนเวียนกันอยู่ไม่กี่บริษัท แต่เสนอมาให้นายกรัฐมนตรีต้องเซ็นอนุมัติ
เมื่อเจอบ่อยๆ เข้า! ฝ่ายการเมืองและนายกรัฐมนตรีก็ต้องโยนเผือกร้อนไปที่สำนักงบประมาณ คือให้ “นายพล” ไปคุยกับสำนักงบประมาณให้รู้เรื่องมาก่อน แล้วนายกรัฐมนตรีถึงจะเซ็นอนุมัติให้
ทั้งการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ และการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ ตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ คือ “หม้อข้าว” ของบรรดา “นายพล(บางคน)” ที่ปากว่าตาขยิบทั้งหลาย!!
โดย..เสือออนไลน์