คำทำนายของโหรดัง! “ชุมนุมประท้วงใหญ่ - การเปลี่ยนทางการเมือง” จะล้อไปกับพลังคนรุ่นใหม่ “นักเรียน - นิสิตนักศึกษา” หรือไม่? พรุ่งนี้ (2 มี.ค.) รอฟังคำแถลงชัดๆ จาก พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนเรื่องจะจบลงอย่างที่กลุ่มคนผู้กุมอำนาจรัฐ คาดหวังหรือไม่? อะไรก็เกิดขึ้นได้กับการเมืองไทย ยุคไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดหนัก
สงคราม “คนต่างยุคสมัย!” ไม่มีคนกลางบนความขัดแย้งเชิงสังคม…
ข้างต้นคือ…บทความที่ “สำนักข่าวเนตรทิพย์” เคยเขียนเอาไว้ ก่อนหน้าที่ขบวนการนิสิตนักศึกจากทั่วประเทศ จะออกมาซักซ้อมการชุมนุมขับไล่รัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ก่อนจะจัดการเคลื่อนไหวจริงจังนับจากนี้ไป
อย่ากระพริบตากับสถานการณ์ทางการเมือง ที่เดินคู่ขนานไปกับการแพร่ะระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย หลังจากเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้ไวรัสโควิด-19 เป็นโรคอันตราย และมีผลบังคับทันทีที่ได้ลงประกาศ เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ยิ่งรัฐบาลมีแนวคิดจะออกประกาศพระราชบัญญัติความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสตัวนี้ โฟกัสไปที่กลุ่มผู้ชุมนุมนิสิตนักศึกษาด้วยแล้ว
เป็นอะไรที่ต้องจับตา! ชนิดห้ามกระพริบกันเลยทีเดียว…หากรัฐบาลยืนยันจะออกประกาศพระราชบัญญัติความมั่นคงฯดังกล่าวจริง!
ถามว่า…ที่นิสิตนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึงนักเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียงระดับชาติ ออกมาร่วมชุมนุมในครั้งนี้ เพราะโกรธแค้นที่พรรคอนาคตใหม่ “ตัวแทนเสียงของประชาชน” กว่า 6 ล้านเสียงของพวกเขา ถูกคำสั่งจากคนแค่ไม่กี่คน (ศาลรัฐธรรมนูญ) ยุบพรรค…ใช่หรือไม่?
ส่วนหนึ่งคงใช่…แต่ไม่ใช่ทั้งหมด!!!
เหตุผลสำคัญมากที่สุด…น่าจะมาจากกระบวนการความไม่ชอบธรรมในทุกองคาพยพ จากเครือข่ายที่รัฐบาลชุดนี้มีอิทธิพลเหนือหน่วยงานราชและองค์กรอิสระเหล่านั้น รวมถึงพฤติกรรมความฉ้อฉล ปิดบัง อำพราง ซ่อนเงื่อนและซ่อนเร้น ของคนในรัฐบาล…มากกว่า
แม้จะเป็นคนรุ่นหนุ่มสาว แต่ระดับความคิดอ่าน และการศึกษาจากสถาบันต้นสังกัด…จุฬาลงกรณ์ ธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ มหิดล กรุงเทพ ฯลฯ รวมถึงบรรดาสถาบันราชภัฏและสถาบันราชมงคล ไม่เว้นแม้กระทั่ง นิด้า ที่ผสมกลมกลืนไปกับข่าวสารข้อมูล ผ่านโลกแห่งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย (โซเชียลมีเดีย) และภาพพฤติกรรมของผู้เกี่ยวกับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ล้วนหล่อหลอมสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้กับเยาวชนกลุ่มนี้…ได้คิดเองเป็น และรู้เท่าทันว่า “อะไรเป็น หรือไม่เป็น IO”
ตรงนี้ เป็นอะไรที่ผู้กุมอำนาจบ้านเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็น “ผู้เฒ่าหลงยุค” ในความคิดของนิสิตนักศึกษายุคนนี้…คิดไม่ถึง!
เมื่อประเมินฝ่ายตรงข้ามผิดไปจากข้อเท็จจริง ย่อมนำมาซึ่ง…การกำหนดนโยบายและมาตรการที่ไม่เหมาะสมและสอดรับกับสถานการณ์ที่แท้จริง
หมากรุก…หมากล้อม พลาดนิดเดียว แพ้ทั้งกระดาน! แต่นั่นมันคือเกมบนกระดาน ต่างจากสถานการณ์จริงของการยกระดับการชุมนุมของนิสิตนักศึกษาจากนี้ไป
“สำนักข่าวเนตรทิพย์” ขอถามไปยังรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์? พวกท่านไม่คิดกันบ้างหรือว่า…ภาพเหตุการณ์ช่วงก่อนหน้านี้ กระทั่งมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ จนถึงภาพการประชุมในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งระหว่างและหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลช่วงที่ผ่านมา
จะสร้างความอึดอัดใจให้กับนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ!!??
ภาพที่ ส.ส.ฝั่งรัฐบาล คอยจ้องประท้วง…ขัดจังหวะการอภิปรายของ ส.ส.ฝ่ายค้าน เป็นระยะๆ อาจแค่สร้างความหงุดหงิดหัวใจของคนดูการถ่ายทอดไปทั่วประเทศ ซึ่งในนั้น…รวมถึงนิสิตนักศึกษากลุ่มนี้ด้วย
แต่คงไม่เท่ากับการที่ “ท่านประธานสภาฯ ที่เคารพ” ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง!!!
ภาพที่ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 จากพรรคภูมิใจไทย ระหว่างทำหน้า “ประธานสภาฯ” ได้ประกาศปิดการประชุม “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” ทั้งที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน ยังไม่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ “2 ในพี่น้อง 3 ป.” นั่นคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกรดทรวงหมาดไทย
กระทั่งฝ่ายค้านหลัก อย่าง…พรรคเพื่อไทย ทำการ “วอล์คเอ้าท์” ไม่เข้าร่วมโหวต “ไว้-ไม่ไว้วางใจ” รัฐมนตรีรายบุคคลในวันรุ่งขึ้น
แม้ผลคะแนนการโหวตจะปรากฏชัด มีคะแนนไว้วางใจมากกว่า…พล.อ.ประยุทธ์ 272 : 49, พล.อ.ประวิตร 277 : 50, พล.อ.อนุพงษ์ 272 : 54, นายวิษณุ เครืองาม 272 : 54, นายดอน ปรมัตถ์วินัย 272 : 55 และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า 269 : 55
แต่นั่น… ไม่ได้สร้างความชอบธรรมขึ้นในใจของประชาชนคนไทยที่เฝ้าติดตามข่าวสารจากการอภิปรายฯ ในครั้งนี้มากนัก ซึ่งแน่นอนว่า…ปรากฏการณ์ดังกล่าว ย่อมสะเทือนความรู้สึกของนิสิตนักศึกษา และนักเรียนมัธยมปลายจากทั่วประเทศไปด้วย
หลายปมจากการอภิปรายครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น…คดี 1MDB, คดีรัฐบาลสั่งทหารทำ IO, คดีสั่งปิดเหมืองทองอัครา, พฤติกรรมที่ส่อถึงความฉ้อฉล ไม่ชอบมาพากลและประพฤติมิชอบ รวมถึงอีกสารพัดเรื่องราว ล้วนเป็นสิ่งที่ฝั่งรัฐบาล โดยเฉพาะผู้ที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ…ไม่ตอบหรือได้ไม่เคลียร์???
แล้วจู่ๆ ผู้ทำหน้าประธานสภาฯ กลับสั่งปิดการประชุมฯ ไปซะอย่างนั้น
ไม่แปลก! หากนักการเมืองฝ่ายค้าน และ/หรือ กลุ่มนักเรียน นิสิตนักศึกษา จะออกมาเคลื่อนไหวชุมชนขับไล่รัฐบาล และเครือข่ายองค์กร “ไม่อิสระ” ของรัฐบาล
โหรดังๆ หลายคน เคยทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองไทย เมื่อช่วงปลายปีก่อน ทำนอง…จะมีการประท้วงครั้งใหญ่บนท้องถนน และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญ
สิ่งนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่? และเมื่อไหร่? คงต้องรอดูการตัดสินใจในวันที่ 2 มีนาคมที่จะถึงนี้ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ นัดหมายแถลงข่าวใหญ่ ส่วนจะเป็นเรื่องใด? จะเป็นการตัดสินใจ “ลาออก” เปลี่ยนตัว “ผู้นำประเทศ” หรือไม่?
หลังจากรัฐบาลมีเสียง ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร เพิ่มจนเกิน 270 เสียง และเมื่อรวมกับเสียงของ ส.ว.อีก 250 เสียง แค่นี้…ก็เกินกว่า 2 ใน 3 ของเสียงในรัฐสภาแล้ว
นั่นมีค่ามากพอจะเสนอชื่อ…ผู้ที่มีความเหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แม้จะไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนหน้านี้ก็ตาม
แต่จากปรากฎการณ์ “ไฟเขียว-ผ่านตลอด” ของรัฐบาล กระทั่งสร้างความเปลี่ยนแปลงในแบบ “เปลี่ยนตัวผู้เล่น” โดยไม่เปลี่ยนโครงสร้างอำนาจ ในขณะที่ พล.อ.ประวิตร ประธานมูลนิธิ “ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดฯ” ยังคงมีอิทธิพลเหนือกระบวนการอำนาจรัฐและองค์กร “ไม่อิสระ” เต็มเปี่ยม
สิ่งนี้…จะหยุดยั้งอารมณ์แห่งพลังของกระบวนการนิสิตนักศึกษา และนักเรียนมัธยมทั่วประเทศ ที่ส่อเค้าว่าจะได้แนวร่วมประชาชนจากภาคส่วนต่างๆ มาร่วมขบวนการฯ ได้หรือไม่?
หรือเดิมพันครั้งนี้…มันมีคุณค่าแห่งความเปลี่ยนแปลงอย่างอเนกอนันต์
ต้องจับตามองชนิดห้ามกระพริบตาเป็นอันขาด!!!