เมืองไทยถึงจุดนี้แล้ว? หลังอาจารย์หมอ “ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา” ชี้ โควิด-19 ไทย เข้าขั้นระยะที่ 3 “ลามจากคนสู่คน” ผลสะเทือนตามมา...อาจถึงกับลามไล่ “รัฐบาลประยุทธ์” เหตุเพราะไร้ประสิทธิภาพบริหารจัดการโรคร้าย
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ที่ลุกลามไปทั่วโลก จนหลายรัฐบาลหลายประเทศสั่ง “ปิดประเทศ” ห้ามคนในออกคนนอกเข้า กันไปแล้ว
ล่าสุด ตัวเลขที่มีรายงานเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่า...ทั่วโลก 150 ประเทศ มีผู้ติดเชื้อไวรัสฯ รวม 156,697 ราย รักษาหาย 75,925 ราย และเสียชีวิต 5,836 ราย (ข้อมูล14 มีนาคม 2563)
ที่เมืองไทย...ตัวเลขที่ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดแถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวันที่ 14 มีนาคม เมื่อเวลา 11.30 พบมีผู้ป่วยเพิ่ม 7 ราย ทำให้ถึงตอนนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มีนาคมยังไม่มีออกมาก) มีผู้ป่วยแล้ว 82 ราย รักษาหาย 35 ราย และยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีก 46 ราย
กลุ่มผู้ป่วย 11 ราย จากเพื่อนนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง และ 7 รายใหม่นี้ ทำให้สังคมไทย หมดความอดทนกับความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล และผู้นำประเทศ
ไหนจะบริหารจัดการ “หน้ากากอนามัย” ได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้คนในสังคมที่ตกอยู่ในภาวะ “ตื่นตระหนกขั้นรุนแรง” แม้กระทั่ง แพทย์และบุคลกากรทางการแพทย์ ไม่มี “หน้ากากอนามัย” ต้องซักตาก หมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ สร้างความอเนจอนาจใจต่อผู้พบเห็นยิ่งนัก
ไหนจะมีข่าว...เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่เฉพาะชาวจีน เข้ามาประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยไร้มาตรการปกกันดูแลคนในชาติ และอีกสารพัดเหตุผลที่คนไทยรู้สึก “รับไม่ได้”
ยิ่งเมื่อปรากฏข่าว ยอดส่งออก “หน้ากากอนามัย” พุ่งพรวด...โดยเฉพาะช่วงก่อนหน้าจะมีการออกประกาศกฎกระทรวงฯ ที่กระทรวงพาณิชย์สั่งห้ามส่งออก ยกเว้น! ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2563 กระแสสังคม แทนที่จะพุ่งเป้าไปยัง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อย่าง...นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ ที่ปล่อยให้โรงพยาบาล ร้านขายยา ร้านค้า ไม่มี “หน้ากากอนามัย” ขาย (ที่วางขายกราดเกลื่อน...ก็มีราคาแพงโคตรๆ)
กลับไปก่นด่าที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แทน
ถามว่าทำไมต้องด่า...พล.อ.ประยุทธ์? ก็เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็น...หัวหน้ารัฐบาล และผู้นำประเทศ จะต้องรับผิดชอบกับทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จะไป “ไล่เบี้ย” เอากับรัฐมนตรีคนใด? นั่นก็เรื่องนึง
แรงกว่านั้น คือ แถม...กรณีคนใกล้ชิดนักการเมือง ทั้งซีกพรรคใหญ่ในรัฐบาล และพรรคเก่าแก่ ต่างมีปม...ประกาศขาย “หน้ากากอนามัย” เพื่อการส่งออก และขายออนไลน์ในประเทศ แต่ต้องเป็นคำสั่งซื้อล็อตใหญ่ๆ เท่านั้น
สร้างความช้ำใจกับคนไทยเจ้าของประเทศยิ่งนัก!
เอาเป็นว่า...ยามนี้ กระแสและเสียงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความรับผิดชอบในการบริหารประเทศ “ผิดพลาด” โดยเฉพาะปม “หน้ากากอนามัย” เริ่มทวีความดังมากขึ้นเรื่อยๆ
แรงกว่าประเด็นทางการเมือง และ 3 ข้อเรียกร้องหลัก “นายกรัฐมนตรีลาออก (หรือยุบสภาฯ) - แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 - เลิกองค์กรอิสระ (ในอาณัติของ คสช.)” ของฝ่ายนักเรียน นิสิตนักศึกษา ครู-อาจารย์ และนักวิชาการ ด้วยซ้ำไป!
ถึงตอนนี้...ยากจะคาดเดาว่า ระหว่าง...ประเด็นทางการเมือง ที่นักศึกษา-ประชาชน เริ่มรวมตัว “ขับไล่” รัฐบาลประยุทธ์ 2 กับประเด็นการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างไหน? จะทำให้รัฐบาลชุดนี้...ไปก่อนกัน
แต่ภาพที่ “สำนักข่าวเนตรทิพย์” เห็น...หลังจากรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐ “วิ่งไล่ตามปัญหา โควิด-19” โดยไร้แผนยุทธศาสตร์ปกป้องคนไทยอย่างเป็นรูปธรรม
แถมยังมีกรณีที่ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ ธี ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า “ขณะนี้ ไทยมี ไทยแพร่กันเอง ไทยติดกันเอง พลาดไป จะติด จนท.รพ. ซึ่งติดคนป่วยอื่นๆ ต่อ ขณะนี้เป็น local transmission”
แปลความง่ายๆ ก็คือ ยามนี้...ประเทศไทยได้เข้าสู่ระยะที่ 3 ประมาณ “คนแพร่เชื้อไวรัสฯ ติดคน” ได้แล้ว
จากนี้...คงได้เห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งออกคำสั่ง...ปิดผับ บาร์ ร้านอาหาร และสถานบริการทั่วไป หลังจากมีข่าวฮ็อต...ดารา เซียนมวย นักการเมือง คนดัง ฯลฯ พาเหรด ติดเชื้อ ทั้งที่เปิดเผยและปิดเงียบ อีกเป็นจำนวนมาก
คงไม่ต้องบอกนะว่า...อะไรจะกลายเป็น “ไฮไลท์” ที่ชี้วัดอาการ “ไปก่อนกำหนด” ของรัฐบาลชุดนี้หรือไม่!!