สังคมออนไลน์กระหน่ำแฮชแท็ก # รัฐบาลขอทาน พุ่งเป็นอันดับ 1 ในโลกทวิตเตอร์ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงว่าเตรียมส่งจดหมายถึง 20 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ เพื่อขอให้มาช่วยเหลือในการต่อสู้วิกฤตไวรัสโควิด-19วันต่อมา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ต้องรีบออกมาชี้แจงว่าไม่ได้เป็นรัฐขอทาน เพราะไม่ได้ขอเงิน ไม่ได้เน้นที่ตัวเงิน แต่เป็นการเชิญมาเพื่อระดมสมอง มาขอความคิดเห็นเพื่อกู้วิกฤตวันต่อมาๆ อีก นายวิษณุคนเก่าบอกว่า มหาเศรษฐีและเจ้าสัวเขาปรารภเข้ามาก่อนเอง ว่าอยากช่วย ซึ่งในวันนี้อีกเหมือนกันที่บรรดาห้างใหญ่ๆ นำโดยกลุ่ม “เซ็นทรัล” ส่งเสียงออดอ้อนไปยังรัฐบาลด้วยว่าอยากเปิดห้างฯ เพื่อทำมาค้าขายในวันที่ 1 พ.ค.นี้“เสือออนไลน์” จับความได้ 2 ประเด็น คือ นายวิษณุบอกว่า มหาเศรษฐีเขาปรารภเข้ามาก่อนเอง ว่าอยากช่วย แล้วทำไมนายกรัฐมนตรีต้องทำจดหมายเชิญ? ถ้าอยากช่วยก็นัดแนะเข้ามาคุยกันเลย ทำไมนายกรัฐมนตรีต้องออกจดหมายเชิญให้ยุ่งยากและเสียเวลาอีกประเด็น คือ กลุ่ม “เซ็นทรัล” ของตระกูล “จิราธิวัฒน์” รวยติดอันดับ 20 มหาเศรษฐีเมืองไทยเหมือนกัน แต่ยังไม่ทันได้รับจดหมายเชิญ แต่กลุ่มเซ็นทรัลส่งเสียงจะขอเปิดห้างฯ เพื่อทำมาค้าขายแล้วไหนจะธุรกิจโรงแรมของกลุ่มเซ็นทรัลอีกล่ะ! ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เหมือนกัน ตระกูล “จิราธิวัฒน์” จะเสนอให้รัฐบาลช่วยเหลืออย่างไร โปรดจับตาดูกันต่อไปแต่ที่แน่ๆ ขณะ “เสือออนไลน์” นั่งพิมพ์บทความอยู่นี้ มีข่าวว่า มหาเศรษฐีอันอันที่ 11 บริจาคเข้ามาแล้ว 100 ล้านบาท ถ้าไม่ใช่ “รัฐบาลขอทาน” ไม่ได้ขอเงิน เพียงต้องการระดมสมอง รัฐบาลต้องคืนเงินก้อนนี้ให้เขาไปเนื่องจาก “เสือออนไลน์” เชื่อว่า “ของฟรี ไม่มีในโลก” ที่สำคัญในห้วง 5 ปีที่ผ่านมา มหาเศรษฐีและเจ้าสัวหลายคนได้ผลประโยชน์กันมาเยอะแล้ว ประเภทที่ว่ารวยกันแบบพรวดๆ ดังนั้นจึงพอเถอะ!โดยปกติรัฐบาลทุกประเทศจะปรึกษาปัญหาวิกฤติประเทศ ด้วยการเปิดรัฐสภาเพื่อปรึกษาหารือ แม้แต่กับฝ่ายค้าน คือใช้กลไกในระบบ เพื่อรักษาระบบให้ทำงานได้เป็นปกติ นี่คือการทำงานด้วยการ "ขับเคลื่อนด้วยระบบ" ซึ่งเป็นเรื่องยั่งยืนและมีประสิทธิภาพที่สุดในระดับของรัฐแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสิ่งเหล่านี้ออกจากวงทั้งหมด แม้แต่ฝ่ายบริหารด้วยกัน คือ พรรคร่วมรัฐบาล ตัดออกแม้กระทั่งทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีคนนี้เล่นคนเดียว ต่อสายตรงลงมาที่เอกชนยักษ์ใหญ่เลย เพราะที่ผ่านมาบริหารเศรษฐกิจตามแนวทางที่ธุรกิจยักษ์ใหญ่แนะนำมาตลอด เมื่อเดินไปต่อไม่เป็น ก็ต้องเรียกมาขอคำแนะนำพร้อมๆ กันดังนั้น ระบบของรัฐทั้งระบบ จึงเป็นเพียงลูกมือของธุรกิจใหญ่ เพราะผู้นำรัฐบาลบริหารงานด้วยวิธีการขับเคลื่อนด้วยระบบไม่เป็น และไม่เข้าใจอย่างแท้จริง แต่บริหารด้วยความคิดแบบเจ้านาย คือ เรียกมาสั่ง เรียกมาขอความร่วมมือ เรียกมาช่วยงานหรือเรียกมาขอเงินด้วยมั๊ย? ซึ่งจะต้องแลกด้วยเงื่อนไขอะไรบ้าง? เพราะ ”ของฟรี..ย่อมไม่มีในโลก” และเป็นที่ทราบกันดีว่านายกรัฐมนตรี มักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องขีดความสามารถในการบริหารจัดการ และการบริหารเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่องแต่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับบริหารงานแบบตัดบทบาทของคณะรัฐมนตรี ตัดบทบาททีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ตัดบทบาทระบบรัฐสภาออกไป ยังไม่นับกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทำไมจึงไม่เรียกประชุมปรึกษาหารือทำไมต้องพุ่งเป้าไปยังมหาเศรษฐีและเจ้าสัว หรือว่าหมดหนทางเดินแล้ว! ท่ามกลางข่าวหนาหูว่าเรื่องทำจดหมายเชิญ 20 มหาเศรษฐี ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ “หูชา” เพราะกรณีดังกล่าวกลายเป็นกระแส “สวิง” ทำให้มหาเศรษฐีอีกคนเดือดร้อน!โดย...เสือออนไลน์