เรื่องนี้ได้กลายเป็นกระแสในโซเชียลวิพากษ์สนั่นทุ่งทันที พร้อมอัดยับ AOT เสียค่าโง่ตั้งแต่ปีมะโว้ หลังซุ่มเงียบไฟเขียว ทั้งที่ยังไม่ได้ประเมินผลกระทบใดๆ จนนักวิเคราะห์ขึ้นบัญชีดำหุ้น AOT อันเดอร์เพอร์ฟอร์ม!
ยังคงเป็นประเด็นสุดฮอต เป็น "ทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์"
กับเรื่องที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ดอดไฟเขียวชดเชยความเสียหายแก่บริษัทเอกชนคู่สัญญา AOT ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด -19 โดยที่ประชุมบอร์ด ทอท. ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 มีมติเห็นชอบ มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการภายในท่าอากาศยาน 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, ภูเก็ต, เชียงใหม่, หาดใหญ่ และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
โดยระบุว่า ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 และอ้างว่า เป็นข้อสั่งการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้แต่ละหน่วยงานหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการใต้ชายคาหรือคู่สัญญารัฐ จึงเห็นควรปรับลดค่าตอบแทนตามสัญญาสัมปทานให้กับผู้ประกอบการเป็นระยะเวลา 2 ปี มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 ถึง 31 มีนาคม 2565
ขณะที่ก่อนหน้านี้ กลับเป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ส่งจดหมายน้อยไปยัง 20 เจ้าสัวมหาเศรษฐีของเมืองไทย เพื่อขอความร่วมมือในการหามาตรการช่วยเหลือประเทศให้ฝ่าวิกฤตไวรัสโควิดในครั้งนี้
กลับปรากฏว่า มีกลุ่มบริษัทเจ้าพ่อดิวตี้ฟรี ซึ่งมีรายชื่อติดทำเนียบมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ได้ตอบรับข้อเรียกร้องของนายกรัฐมนตรี ด้วยการโชว์ 4 โครงการสำคัญของกลุ่มในการรับมือวิกฤตไวรัสโควิด และช่วยเหลือสังคมรวมกว่า 22 โครงการ โดยใช้งบกว่า 1,500 ล้านบาท
โดยผู้บริหารเจ้าพ่อดิวตี้ฟรี ออกมาแจกแจงโครงการสำคัญของกลุ่ม ในการรับมือกับไวรัสโควิด ประกอบด้วย..
1. การดูแลพนักงานกว่า 12,000 อัตราตามปกติ และไม่มีนโยบายในการลดจำนวนพนักงานแต่อย่างใด รวมถึงสนับสนุนการสร้างรายได้เสริมผ่านการขายของออนไลน์ผ่านเวบไซต์
2. การบริจาคสมทบทุนทางการแพทย์ รวมแล้วกว่า 45 ล้านบาท
3. การดำเนิน โครงการเพื่อสังคมที่ได้ดำเนินการไปแล้ว โดยใช้งบรวมกว่า 1,318.90 ล้านบาท (ส่วนใหญ่อยู่ในปี 60-62)
และ 4. โครงการเพื่อสังคมที่จะดําเนินการต่อเนื่อง และเป็นโครงการใหม่ที่จะดำเนินการในช่วงปี 2563-2565 งบประมาณ 749 ล้านบาท เพื่อให้การช่วยเหลือสังคมเป็นไปอย่างต่อเนื่องนั้น
เป็นที่น่าสังเกตว่า ขณะที่ผู้บริหารกลุ่มเจ้าพ่อดิวตี้ฟรีแจกแจงโครงการที่บริษัททำเพื่อสังคมผ่านโครงการ CSR ต่างๆ ของบริษัท รวมกว่า 200 โครงการ วงเงินรวมกกว่า 1,500 ล้านบาทนั้น..
ในอีกด้านหนึ่งบริษัทเจ้าพ่อดิวตี้ฟรีกลับแบมือขอให้คู่สัญญาฝ่ายรัฐ คือ AOT ชดเชยความเสียหายให้แก่สัญญาสัมปทานของบริษัทมีอยู่กับ AOT ซึ่งคิดเป็นมูลค่าเงินชดเชยที่ได้รับจากรัฐรวมกว่า 20,000 ล้านบาท
จึงทำให้สังคมตั้งข้อกังขาต่อ AOT ที่รีบเร่งดำเนินการทำคลอดมาตรการอุ้มชูผู้ประกอบการใต้ชายคา ทั้งที่ยังไม่ได้มีการประเมินความเสียหายที่แท้จริง รวมทั้งยังไม่รู้ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะทอดยาวไปนานเท่าใด
แต่ AOT กลับชิงออกมาตรการเยียวยาล่วงหน้าให้ จึงทำให้เกิดข้อกังขาเป็นอย่างมาก และทำให้ล่าสุดนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้ขึ้นบัญชีดำหุ้น AOT ว่า Under Perform หรือเป็นหุ้นที่ถูกประเมินว่า รายได้และกำไร มีโอกาสปรับตัวลดลงทันที!
โดย: แก่งหินเพิง