คอการเมืองที่ติดตาม “ซูเปอร์โพล” ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะ “อึ้งกิมกี่” จากผลสำรวจของโพลที่ว่านี้ เพราะจะออกไปในแนว “ชื่นชอบ-ชื่นชม” การทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู
แต่ถ้าใครสังเกต “ซูเปอร์โพล” ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ช่วงที่มีข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ จากกลุ่มเฮียกวง-นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และทีม 4 กุมาร
ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมการศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกฯ มาเป็นทีมของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับนายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค
สังเกตดีๆ ว่า ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา “ซูเปอร์โพล” ออกแนว “เปลี่ยนไป” จากที่เคย “ชื่นชอบ-ชื่นชมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์แบบสุดลิ่มทิ่มประตู แต่ตอนนี้ออกมาในแนว “ขย่ม” รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อย่างหนัก
หลังจากมีแนวโน้มว่าเฮียกวง-นายสมคิดกับทีม 4 กุมาร กำลังจะไม่มีที่ยืนในพรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งจะไม่มีที่นั่งในเก้าอี้รัฐมนตรีของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ด้วย
ตอนนี้คอการเมืองจึงแซวเฮียกวง-นายสมคิดกับทีม 4 กุมาร ว่าเป็นกลุ่ม “คนอกหักพักบ้านนี้”
“คนอกหักพักบ้านนี้” เป็นชื่อเพลงที่อดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “สายัณห์ สัญญา” เคยร้องจนโด่งดังเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว จึงช่างเหมาะเจาะมากที่ใช้ชื่อเพลงนี้ให้นายสมคิดกับทีม 4 กุมาร เพราะปัจจุบันนอกจากไม่มีตำแหน่งแห่งหนในพรรคพลังประชารัฐ ยังมีโอกาสเก้าอี้รัฐมนตรีจะหลุดออกจากก้นอีกด้วย
แต่นายสมคิดกับทีม 4 กุมาร ยังมีตัวช่วยอย่าง “ซูเปอร์โพล” เพราะผลสำรวจซูเปอร์โพลล่าสุด ยังหนุนรัฐมนตรีทีม 4 กุมารให้ทำงานต่อไป และไม่เห็นด้วยการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 63 ศูนย์คุณธรรมและซูเปอร์โพล ยังออกมาระบุผลสำรวจด้วยว่า คนไทยชนะไวรัสโควิด-19 ได้ด้วยความมีวินัย รักษาระยะห่าง พกเจล และใส่หน้ากากอนามัย
พูดง่ายๆ ว่า ผลสำรวจดังกล่าวไม่ได้ “อวย” ว่า เป็นฝีมือหรือเป็นผลงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์
นอกจากความเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นของ “ซูเปอร์โพล” ในช่วงนี้แล้ว นายสมคิดที่ถูกมองว่ากำลัง “ไม่มีอนาคต” ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็เสนอแนะแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยขึ้นมา ให้ “ยุบสภา” เหมือนสิงคโปร์ เพื่อเลือกตั้งกันใหม่ ให้ได้รัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ มารับมือกับการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจหลังโควิด-19
นายสมคิดเสนอให้ยุบสภาเลือกตั้งกันใหม่ เพื่อให้ได้รัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ พูดแบบนี้เหมือนการตบหน้าตัวเอง และตบหน้า พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้
มองอีกมุมหนึ่งนายสมคิด คงพูดไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด เพราะถ้าไม่ใช่เขากับทีม 4 กุมาร แล้วใครจะมาทำงานด้านเศรษฐกิจให้รัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากปัจจุบันเป็นปัญหาใหญ่มาก ใครมาก็แก้ปัญหาเศรษฐกิจที่หมักหมมได้ยากลำบาก ใครจะกล้าเอาชื่อเสียงมาแลกกับสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาหนักหน่วงอยู่ในขณะนี้
ไม่เช่นนั้นจะมีชื่อนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเหรัญญิกพรรค โผล่ขึ้นมานำทีมเศรษฐกิจหรือ? แสดงว่าไม่มี “มือเศรษฐกิจ” จริงๆ จึงต้องปล่อยชื่อนางนฤมลออกมาเพื่อโยนหินถามทาง..
แล้วนางนฤมลกับพรรคพลังประชารัฐ ก็เจอ “ทัวร์ลง” ถูกปรามาส ถูกโจมตีอย่างหนัก
สุดท้ายทั้งพล.อ.ประวิตร และนายอนุชา ต้องออกมาช่วยกันดับกระแส “ทัวร์ลง” ว่า นางนฤมลแค่จะคุมทีมงานในการเขียนนโยบายเศรษฐกิจ แค่ผลิตนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเท่านั้น
เรียกว่า..ต้องรีบหาทางออกไปอย่างน้ำขุ่นๆ แบบนี้แหล่ะ!
โดย..เสือออนไลน์