บอร์ด อสมท มีมติเปิดโครงการ “เต็มใจจาก”ตั้งเป้าลดพนักงาน 700 คน จากพนักงานที่มีทั้งหมด 1,600 คน “ประธานบอร์ด อสมท” ระบุเป็นการดำเนินการตามคำแนะนำของ “ก.คลัง” ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อให้องค์กรเดินต่อไปได้ เตรียมกู้เงินกว่า 1,000 ล้านบาท จ่ายค่าชดเชย พร้อมยืนยันการเข้าร่วมโครงการฯเป็นไปตามความสมัครใจ ไม่มีการ ”จิ้มออก”
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2563 พล.ต.อ.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ประธานกรรมการบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) อสมท. เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้เปิดโครงการ “เต็มใจจาก” และโครงการสมัครเกษียณอายุก่อนกำหนด (เออร์รี่รีไทร์) โดยตั้งเป้าจะลดจำนวนพนักงานลง 700 คน จากพนักงานทั้งหมดที่มี 1,600 คน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามคำแนะนำของกระทรวงการคลัง
“การลดพนักงานดังกล่าวเป็นไปตามคำแนะนำของกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ อสมท เพราะหากไม่ลดพนักงาน จะทำให้บริษัทฯ ไปไม่ไหว และหากพนักงานสมัครเข้าร่วมโครงการ “เต็มใจจาก” ครบตามเป้าหมาย 700 คน ก็ไม่จำเป็นต้องมีโครงการเออร์รี่รีไทร์แล้ว” พล.ต.อ.ทวิชชาติ กล่าว และย้ำว่า “อสมท จำเป็นต้องทำตามคำแนะนำของกระทรวงการคลัง เพราะไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาได้ ในขณะที่ อสมท เองมีความจำเป็นต้องเข้าแผนฟื้นฟูกิจการฯ”
สำหรับโครงการ “เต็มใจจาก” นั้น เบื้องต้นที่ประชุมบอร์ด อสมท ให้นโยบายว่า พนักงานที่สมัครเข้าร่วมโครงการจะต้องได้รับเงินชดเชยตามระยะเวลาที่ทำงาน ซึ่งมากกว่าที่กฎหมายแรงงานกำหนด และยังจะได้รับเงินพิเศษเพิ่มอีก โดยขณะนี้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลอยู่ระหว่างพิจารณาหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และการชดเชยของโครงการฯ ทั้งนี้ บอร์ด อสมท ได้อนุมัติวงเงินค่าใช้จ่ายสำหรับใช้ดำเนินโครงการฯดังกล่าวเป็นเงินกว่า 1,000 ล้านบาท
“เงินประมาณ 1,000 ล้านบาทที่จะนำมาจ่ายชดเชยพนักงานฯจะมาจากเงินกู้จากแบงก์ ซึ่งหลักทรัพย์ที่เราจะนำไปใช้ค้ำประกันเงินกู้ คือ เงินเยียวยาคลื่น 2600 MHz ที่ กสทช. จะจ่ายให้เราเป็นงวดๆ แต่หากไม่เพียงพอก็จะใช้ที่ดินที่ อสมท มีอยู่ไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยแบงก์จะจ่ายตามจำนวนที่เราจ่ายจริง และขอยืนยันว่าการเข้าร่วมโครงการฯ จะเป็นไปตามความสมัครใจของพนักงาน ไม่มีการบังคับ และไม่มีการจิ้มออกอย่างแน่นอน” พล.ต.อ.ทวิชชาติกล่าว
ส่วนแนวทางการพลิกฟื้นกิจการของ บมจ.อสมท นั้น ที่ผ่านมาบอร์ด อสมท ได้นโยบายกับฝ่ายบริหารไปแล้ว โดยให้เน้นในเรื่องการลดค่าใช้จ่าย และการเพิ่มรายได้ทั้งจากธุรกิจและทรัพย์สินที่มีอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของการเพิ่มรายได้นั้น ได้ขอให้แต่ละฝ่ายเสนอโครงการฯขึ้นมาว่าจะเพิ่มรายได้อย่างไรบ้าง เช่น กรณีเป็นที่ดินเปล่าจะนำมาเพิ่มรายได้ได้อย่างไร หรือแผนกทีวีและวิทยุจะมีแผนดำเนินการอย่างไรที่จะเพิ่มรายได้ให้กับองค์กร
พล.ต.อ.ทวิชชาติ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท ว่า ในการประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการฝ่ายสรรหาฯรายงานให้บอร์ดทราบว่า มีผู้สมัครเข้ารับการสรรหาแล้ว 5 คน ซึ่งบอร์ดได้ขอให้คณะกรรมการสรรหาฯไปพิจารณาว่า ผู้สมัครเพียงพอหรือไม่ หรือจะมีการขอขยายระยะเวลาหรือไม่ และเมื่อข้อสรุปอย่างไรก็ให้คณะกรรมการสรรหาฯรายงานให้บอร์ดรับทราบต่อไป
ขอบคุณข้อมูล: สำนักข่าว ISRANEWS