ฝากคำถามไปยังรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร ว่า จะขี่ช้างไล่จับตั๊กแตนไหวมั๊ย?
เมื่อเจอยุทธการแบบดาวกระจายของม็อบ “ราษฎร” ซึ่งไม่มีแกนนำ แต่กระจายไปทั่วเมืองพร้อมกัน
ตำรวจมัวแต่ไปวางแบริเออร์ ขึงลวดหนาม วางรั้วเหล็ก ในจุดที่คิดว่าม็อบจะไป แต่ปรากฎว่าม็อบไม่ไป!
เพราะยุคนี้มันสังคมออนไลน์ 4-5G แค่แจ้งนัดสถานที่ผ่านมือถือกันแป๊บเดียว ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ม็อบนักเรียน นักศึกษา และประชาชนมากันเต็มถนนแล้ว
แถมประกาศกันชัดๆ เลยว่า อยู่กันไม่เกิน 2 ทุ่มกลับบ้าน เพื่อออมแรงไว้พรุ่งนี้มาใหม่ แต่ถ้าเห็นตำรวจยกกำลังมา และขับรถน้ำมาด้วย ม็อบก็ประกาศสลายตัวก่อน 2 ทุ่ม
เป็นแบบนี้เหมือนกันทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดที่มีสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น พิษณุโลก มหาสารคาม นครราชสีมา และปทุมธานี..
ม็อบออกมาตะโกนขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ทุกวัน
ถ้าเปรียบเป็นมวยก็ต้องบอกว่า ระดับ ”พญามัจจุราช” กำลังลดเพดานลงไปต่อยกับ “มวยเด็ก” ที่น้ำหนักห่างกันหลายสิบปอนด์
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจยกกำลังไปปิดทุกทิศทางที่จะมาแยกราชประสงค์ ทั้งตั้งวางแผงเหล็ก วางแบริเออร์พร้อมเติมน้ำใส่เข้าไป เพื่อไม่ให้เคลื่อนย้ายได้ง่ายๆ วางลวดหนาม พร้อมกำลังควบคุมฝูงชนเพียบ! ตั้งแต่กลางวัน
แต่ม็อบราษฎรไม่ไป! โดยแจ้งย้ายสถานที่กันก่อน 5 โมงเย็น ขยับมาที่สี่แยกปทุมวัน ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มากันพรึ่บเต็มถนน ปิดสี่แยกปทุมวัน เหมือนมารอให้ตำรวจยกกำลังมาฉีดน้ำผสมสีสลายม็อบเด็กเยาวชน นักเรียนมัธยม และนักศึกษามหาวิทยาลัยกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นการชุมนุมกันโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และไม่มีการค้างคืนกันอยู่แล้ว
แต่กำลังตำรวจภายใต้ร่มเงาของพญามัจจุราชเปิดฉากลุยสลายม็อบเด็กในเวลากลางคืน ด้วยการฉีดน้ำผสมสีใส่ม็อบจนแตกกระเจิง กลายเป็นภาพข่าวที่ประจานรัฐบาลไปทั่วโลก
หลังจากสลายม็อบได้แล้ว เห็นว่าตำรวจตามจับแกนนำม็อบ รวมทั้งผู้ที่ฝ่าฝืนมาร่วมชุมนุมไป 20 กว่าคน โดยมีผู้บาดเจ็บคนละเล็กละน้อย ทั้งตำรวจและผู้ที่มาชุมนุม รวมๆแล้วไม่กี่คน เรียกว่ายกนี้พญามัจจุราชแพ้คะแนนมวยเด็ก
พอวันรุ่งขึ้น (17 ต.ค.) คราวนี้กลายเป็นม็อบดาวกระจาย ทั้งห้าแยกลาดพร้าว-อุดมสุข-วงเวียนใหญ่ สามย่านมิตรทาวน์ และแคราย อยู่กันประมาณ 2 ทุ่มก็สลายตัว เพื่อวันรุ่งขึ้นมาเจอกันใหม่ ในสภาพที่จำนวนคนมากขึ้นทุกวัน
เป็นการวัดกำลังว่า ใครจะอึดว่ากัน ระหว่างพญามัจจุราชกับมวยเด็กๆ และถ้าลากยาวไปเรื่อยๆ แบบนี้ ปัญหาทางเศรษฐกิจ และการคมนาคมขนส่งจะพังหมด!
ความกดดันต่างๆ จะพุ่งไปที่พญามัจจุราชและองคาพยพ ว่า ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ “ลาออก” หรือ “ยุบสภา” แล้วล่ะ!
แต่สำหรับคนที่ไปเห็นบรรยากาศม็อบล็อมทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งม็อบที่ราชประสงค์-สี่แยกปทุมวัน และม็อบดาวกระจายทั่วประเทศ แล้วได้เห็นอารมณ์ของเยาวชนคนรุ่นใหม่
คงต้องบอกว่า แค่ “ลาออก” หรือ “ยุบสภา” อาจจะไม่พอ!
แต่ควรมองๆ ประเทศที่จะลี้ภัยเอาไว้บ้าง เนื่องจากใกล้ Game Over แล้วจะไม่มีสิทธิ์กลับมาใหม่!
เสือออนไลน์