ไม่รู้ที่มาที่ไปของกระแสว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 25 พ.ย. 63
หรือเป็นเพียงยุทธวิธีการปล่อยข่าวของม็อบ “ราษฎร 63” ที่จะเคลื่อนขบวนไปยังสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในวันที่ 25 พ.ย. 63
หรือเป็นแค่กระบวนยุทธ์ตัดไม้ข่มนามกันล่วงหน้า ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณากรณีการอยู่อาศัยในบ้านหลวงช่วงหลังเกษียณอายุราชการของ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ว่าผิดหรือไม่ผิด แต่ถ้าผิด พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ได้ไปต่อ
เรื่องดังกล่าวมาพร้อมๆ กับกระแสข่าวว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก หรือศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าผิดกรณีบ้านหลวง งานนี้ส้มจะหล่นใส่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะได้เป็นนายกฯ คนต่อไป
“เสือออนไลน์” ประเมินกรณีของ พล.อ.ประยุทธ์นั้น มีทั้งความเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ยังขืนอยู่ต่อไป อีกหลายๆ คนก็จะ “น่วม” ไปพร้อมกับ พล.อ.ประยุทธ์ และสถานการณ์ในอนาคตยังเดาไม่ถูกว่าจะรุนแรงลุกลามถึงขั้นเสียเลือดเนื้อกันอีกหรือไม่?
แต่มองในอีกมุม ถ้าดัน พล.อ.ประยุทธ์ออกไปแล้วจะเอาใครมาแทน จะเอาใครมาประคองเกมไปเรื่อยๆ ได้แบบ พล.อ.ประยุทธ์ หรือจะส่งไม้ต่อให้รุ่นพี่บูรพาพยัคฆ์ “ป้อม-ป๊อก” แต่ม็อบราษฎร 63 คงไม่เอาด้วยอยู่ดี
หรือจะไปที่นายอนุทิน เพราะถ้าไม่มี พล.อ.ประยุทธ์แล้ว ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ในรัฐสภาต้องโหวตเลือกนายกฯ กันใหม่จาก “แคนดิเดท” ของพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งนายอนุทินเป็นหนึ่งในแคดิเดทนั้นด้วย
รวมทั้งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ จากพรรคประชาธิปัตย์ แต่ถ้าไม่มีตัวผู้เล่นจริงๆ ฝ่ายผู้มีอำนาจน่าจะใช้บริการนายอนุทินมากกว่า
แล้วที่แน่นอนคือจำนวนเสียงส.ส.ในฝ่ายรัฐบาลไม่ได้ “ปริ่มน้ำ”เหมือนช่วงตั้งรัฐบาลใหม่ๆ..
ดังนั้น นายอนุทิน จึงมีโอกาสมากกว่าคนอื่น ถ้า พล.อ.ประยุทธ์พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว
ช่วงก่อนเลือกตั้งปี 62 นายอนุทินหาเสียงไว้ว่าจะไม่จัดตั้งรัฐบาลกับทหารคสช. จะไม่ให้ ส.ว.มามีอำนาจเหนือจาก ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
แต่พอหลังการเลือกตั้งไม่กี่วัน สุ้มเสียงของนายอนุทินเปลี่ยนไป!
ไม่ต้องพูดถึงจุดยืน “กลับหลังหัน” ทันที ขนาดพรรคเพื่อไทยที่ชนะการเลือกตั้งได้ ส.ส.เขตมากเป็นอันดับ 1 ประเคนเก้าอี้นายกฯให้นายอนุทินยังไม่เอา แต่นายอนุทินยอมกอดคอร่วมขบวนไปกับคณะนายทหาร คสช. และ ส.ว. 250 คนที่มาจากการลากตั้ง
มีกระแสข่าวว่า นายอนุทินสื่อสารผ่าน ส.ส.หลายคนในพรรคเพื่อไทย ให้ไปช่วยบอกกับ “นายใหญ่ดูไบ” ถึงความจำเป็นที่ตกอยู่ในสภาพ “ไฟลท์บังคับ” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เนื่องจากหลังเลือกตั้งเสร็จ พอจะรู้ผลอย่างไม่เป็นทางการ ก็มี “พล.อ.” ในระดับบิ๊กโทรฯ มาแสดงความยินดีกับนายอนุทินที่ได้ส.ส.เข้ามาหลายคน และหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกัน
นายอนุทินจึงไม่กล้าเคลิ้มไปกับเก้าอี้นายกฯ ที่พรรคเพื่อไทยประเคนให้ เพราะเขารู้ว่า “ขั้วอำนาจ” ใหญ่ของประเทศนี้อยู่ฝั่งไหน ดังนั้นนายอนุทินจึงเลือกอยู่ฝั่ง พล.อ.ประยุทธ์
ณ เวลานี้ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องสะดุดอะไรก็แล้วแต่ นายอนุทินคือตัวเลือกหมายเลข 1 ของฝ่ายรัฐบาล แล้วก็มีโอกาสเป็นไปได้กับเก้าอี้นายกฯ แต่นั่นหมายถึง“ทุกขลาภ”ใหญ่กำลังมาเยือน!
เพราะเป้าหมายของม็อบราษฎร 63 คือ ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ แก้รัฐธรรมนูญ แล้วเลือกตั้งใหม่!
ถ้านายอนุทินจะมาเป็นนายกฯ คั่นเวลา คิดว่าจะทนแรงเสียดทานต่างๆ ของนักเรียน นักศึกษาไหวหรือ?
เอาว่าการเป็นรองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข มา 1 ปีกว่าๆ ไล่นิ้วดู มีคำถามว่า นายอนุทินมีผลงานอะไรโดดเด่น เข้าตาประชาชนบ้าง?
ตอบว่า มีน้อย แม้กระทั่ง นโยบายเด่นของพรรคภูมิใจไทย อย่าง ”โครงการส่งเสริมปลูกกัญชา” ก็ยังไม่เกิด ปัญหาไวรัสโควิด-19 ควรจะใช้วิกฤติเป็นโอกาสในการสร้างผลงาน แต่นายอนุทินกลับทำอะไรไม่ได้มาก..
ดังนั้น จึงต้องคิดให้ดีถ้าจะมาเป็นนายกฯเพื่อขั้นเวลา!
เนื่องจากปัจจุบันนักเรียน นักศึกษาปราศรัยโจมตีแบบทะลุเพดาน ทะลุฟ้ากันไปหมดแล้ว นายอนุทินจะแบกรับสภาพนั้นไหวหรือ..
...แล้วที่สำคัญไม่แพ้กันจะแจกกล้วยเลี้ยงลิงไหวหรือ?
โดย..เสือออนไลน์