เหมือนเป็นเพียงแค่ “อีเว้นต์” ฉีดวัคซีน! ประเภทวูบวาบแล้วก็ไป แลดูพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศในวันที่ 7 มิ.ย.64 แต่หลังจากนั้นค่อยๆฟ่อ! แล้วเหี่ยวลง เนื่องจากแต่ละจังหวัดได้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปเพียงน้อยนิด ไม่กี่พันโดส
สุดท้ายวัคซีนหมด! ต้องเลื่อนฉีด! และสัปดาห์หน้าตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. เรื่อยไปจะมีวัคซีนหรือเปล่ายังไม่รู้ ส่วนวัคซีนที่มีเพราะเพิ่งได้เข้ามาใหม่ 1 ล้านโดส ยังไม่มีใครอยากจะฉีดเสียเท่าไหร่นัก
สรุปวันฉีดวัคซีนแห่งชาติ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่ากันว่าฉีดแบบปูพรมได้ 416,847 โดส ต่อมาวันที่ 8 มิ.ย. ฉีดไป 472,128 โดส วันที่ 9 มิ.ย. อีก 336,674 โดส วันที่ 10 มิ.ย. ฉีดไป 223,315 โดส รวมทั้งสิ้น 4 วัน 1,448,964 โดส
รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 – 10 มิ.ย.64 เป็นการฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 4,143,444 โดส ฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 1,523,614 โดส รวมทั้ง 2 เข็ม 5,667,058 โดส ซึ่งถือว่าเป็นไปอย่างล่าช้า
แม้ประเทศไทยเพิ่งได้วัคซีนซิโนแวคเข้ามาเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.64 อีก 1 ล้านโดส กับวัคซีนทางเลือกคือ “ซิโนฟาร์ม” ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาประมาณปลายเดือนมิ.ย. อีก 1 ล้านโดส บวกกับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ที่น่าจะเลื่อนกำหนดการส่งมอบออกไปจากวันที่ 14 มิ.ย.ออกไป แต่จะเป็นวันที่เท่าไหร่ยังไม่ทราบแน่ชัด สรุปจนถึงปลายเดือน มิ.ย.นี้ ยังไม่ถึง 8 ล้านโดส อยู่ดี!
“เสือออนไลน์” ฟังสุ้มเสียงของนักธุรกิจ และนักการเงินการธนาคาร บอกว่ากระแสการปูพรมฉีดวัคซีนในวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เหมือนท่าทางจะดี! แต่หลังจากนั้นค่อยๆ แผ่วลง และแผ่วลง จนถึงขั้นไม่มีวัคซีน ตรงนี้เป็นความน่าห่วงของเศรษฐกิจประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลัง
เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่แบบนี้กันทั่วโลก การดึงเม็ดเงินเข้ามาได้รวดเร็วที่สุดคือการท่องเที่ยว ยิ่งเปิดประเทศได้เร็วเท่าไหร่ เศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้เร็วเท่านั้น
แต่สำหรับประเทศไทยควรมีการฉีดวัคซีนให้ได้ครอบคลุม 70% ของจำนวนประชากรภายในประเทศ ภายในเดือน ส.ค.นี้ เพื่อให้ทันกับ “ไฮซีซั่น” ปีนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมีเวลาวางแผนการเดินทาง แล้วจึงกำหนดการจองตั๋วเครื่องบิน และจองโรงแรมที่พัก
ถ้าต้องการกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ทันกับไตรมาส 4 ปีนี้ นั่นหมายความว่าช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. 64 ต้องมีการจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรมในประเทศไทยเข้ามาบ้างแล้ว
แต่ถ้าวัคซีนโควิด-19 มาแบบติดๆ ขัดๆ สั่งเข้ามาแบบกะปริดกะปรอย เหมือนต้องการ “เลี้ยงไข้” คนไทยไว้อย่างนี้ พูดง่ายๆว่าถ้าลากยาวๆ การฉีดวัคซีนไปถึงสิ้นปี 64 ปีหน้าจะลำบากกันอย่างสาหัส
โดยเฉพาะคนชั้นกลางลงมา กิจการร้านค้าต่างๆ จะต้องปิดตัวลงจำนวนมาก รวมทั้งโรงแรม รีสอร์ท ห้องเช่า ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยใบอนุญาตสถานประกอบการที่ถูกต้อง และที่สำคัญคือสถาบันการเงิน (ธนาคาร) ไม่ได้อยากจะยึดสถานประกอบการเหล่านี้ มาเก็บไว้ให้เป็นภาระ
ไม่ต้องพูดถึงทรัพย์สินอื่นๆ ทั้งบ้าน อาคารพาณิชย์ คอนโดฯ และรถยนต์ คงจะขาดส่งค่างวดและถูกปล่อยทิ้งให้ยึดกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากคนตกงานจำนวนมาก ไม่มีรายได้ หรือยังไม่ตกงานแต่รายได้ลดลงเพื่อความอยู่รอดขององค์กร
ในขณะที่ธุรกิจการท่องเที่ยวยังหยุดนิ่ง เพราะคนไทยไม่เที่ยวไทยด้วยหลายๆ ปัจจัย ทั้งโควิด-19 ยังไม่จางหายไป ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และไม่มีเงิน หรืออาจมีเงินแต่ต้องประหยัดแบบรัดเข็มขัดกันเอวคอด
ไม่ต้องพูดถึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ถึงเขาจะได้รับวัคซีนครบแล้ว 2-3 เข็ม เขาก็ต้องเลือกไปท่องเที่ยวในประเทศปลายทางที่คนส่วนใหญ่ 70% ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว
แต่ปัจจุบันนักธุรกิจหลายๆ คน เห็นการฉีดวัคซีนในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำเนินการไปได้แค่ 2 วัน แล้วแผ่วลง! จึงได้แต่นั่งส่ายหัวกันแบบปลงๆ
เสือออนไลน์