กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับ "ช้อปปี้" ขนสินค้าเกษตรและสินค้าชุมชนกว่า 4,000 รายการ ส่งแคมเปญลดกระหน่ำก่อนมหกรรมลดราคาสินค้าออนไลน์ 10.10 ลดทะลุพิกัด จัดหนักทุกดีล เอาใจนักช้อปออนไลน์ 10 วันต่อเนื่อง จัดทำแคมเปญส่วนลด 15% เพียงกรอก Code “DBD15” ระหว่างวันที่ 1 - 10 ตุลาคม 2564 ที่ www.shopee.co.th/dbdonline ซึ่งเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการสินค้าชุมชนทั่วประเทศสู้วิกฤตโควิด-19 ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางไปเลือกซื้อสินค้าชุมชนในภูมิภาคต่างๆ ได้ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการชุมชนโดยตรงเนื่องจากขายสินค้าได้น้อยลง แคมเปญพิเศษ “สุขใจซื้อของไทย” จึงเป็นช่องทางหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีศักยภาพและพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้สามารถแข่งขันได้ผ่านช่องทางตลาดออนไลน์ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสินิตย์ เลิศไกร) ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการสินค้าชุมชนทั่วประเทศสู้วิกฤตโควิด-19 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ร่วมกับแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดังอย่าง Shopee ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน มุ่งส่งเสริม การจำหน่ายสินค้าชุมชนสู่ช่องทางการค้าออนไลน์พร้อมจัดแคมเปญลดราคาสินค้าเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้าชุมชน ให้สามารถขยายช่องทางการขายสินค้าชุมชนผ่านทางออนไลน์ได้ โดยคัดสินค้าชุมชนเด็ดๆ กว่า 4,000 รายการ เช่น ผักผลไม้อบกรอบ น้ำผึ้งดอกลำไย กระเป๋ากระจูด กือโปะ น้ำพริกกุ้งเสียบฯ มาจำหน่ายผ่านแคมเปญ “สุขใจซื้อของไทย” ระหว่างวันที่ 1 - 10 ตุลาคม 2564 โดยสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ที่แอปพลิเคชัน Shopee หรือเว็บไซต์ www.shopee.co.th/dbdonline แถมใจป้ำมอบโปรโมชันส่วนลดสูงสุด 15% เพียงกรอก Code “DBD15” พิเศษสุดๆ ยังมี Code “OTOPSMART” ใช้ลดราคาสินค้า OTOP ได้อีกด้วย
“ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้ทุกกิจการขายของได้อย่างยากลำบาก กรมฯ หวังว่าแคมเปญ “สุขใจซื้อของไทย” จะช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการสินค้าชุมชนทั่วประเทศ จึงขอเชิญชวนทุกท่านช่วยกันอุดหนุนสินค้าชุมชนผ่านแคมเปญพิเศษนี้ เพราะมีสินค้าดีๆ จากทั่วประเทศมาจำหน่าย พร้อมส่วนลดพิเศษที่ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและ Shopee มอบให้ ตั้งเป้าว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจให้ก้าวผ่านพ้นวิกฤตการณ์นี้ไปได้ นอกจากนี้กรมฯ ยังมีแผนจัดมหกรรมศูนย์กลางอีคอมเมิร์ซ Thailand e-Commerce Expo ครั้งยิ่งใหญ่ช่วงปลายปีในรูปแบบ Virtual Event ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยชุมชนและเชื่อมต่อให้ผู้ประกอบการชุมชนและผู้ซื้อทั่วประเทศได้มาพบเจอกัน รวมถึงการรับฟังองค์ความรู้ในรูปแบบออนไลน์โดยไม่ต้องออกจากบ้านก็สามารถมีปฏิสัมพันธ์กันได้ เป็นการช่วยส่งเสริมการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่ผู้ประกอบการ โดยสามารถติดตามโครงการช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการ ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ที่ Facebook “DBDeCommerce” และ www.dbd.go.th”
อธิบดีกล่าวเพิ่มเติมว่า “จากผลสำรวจโครงการ Thailand Digital Outlook ระยะที่ 3 ของสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมารายงานว่า ประชาชนยอมรับและเชื่อถือการใช้ e-Commerce มากขึ้น มีประชาชนซื้อสินค้าและบริการออนไลน์สูงขึ้น ยอดเติบโต แบบก้าวกระโดดจาก 37.7% เป็น 76.6% ซึ่งประเทศไทยมีมูลค่าการชําระเงินออนไลน์ผ่าน Mobile Banking สูงที่สุดในโลก โดยพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 6-10 ชั่วโมงต่อวัน โดยกิจกรรมมีทั้งการทํางาน ความบันเทิง รวมถึง ใช้ในการซื้อขายออนไลน์ โดยพบว่าใช้เพื่อการทํางาน เช่น ประชุมออนไลน์ หรือ Work from home คิดเป็นสัดส่วนถึง 75.2% เรียนออนไลน์ คิดเป็นสัดส่วน 71.1% ซื้อสินค้าออนไลน์ คิดเป็นสัดส่วน 67.4% เพื่อการติดต่อสื่อสารสนทนา 65.1% และเพื่อทําธุรกรรมด้านการเงินออนไลน์ 54.7% ดังนั้น ผู้ประกอบการออนไลน์ จึงต้องปรับปรุงและพัฒนาช่องทางการตลาดออนไลน์ของตนเองให้ตอบโจทย์และอำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีโอกาสประสบความสำเร็จได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น”