ไทม์ไลน์การเมืองช่วงต้นปี 65 คงมีประเด็นน่าสนใจติดตามอยู่ 2 เรื่อง..นั่นคือ..ฝ่ายค้านจะขอยื่นเปิดอภิปรายการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แบบไม่ลงมติ และอีกเรื่องคือการที่สภาต้องเร่งออกกฎหมายลูกขึ้นมารองรับการเลือกตั้งด้วยบัตร 2 ใบ (เลือกคน-เลือกพรรค) สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าอันที่จริงบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ไม่ใช่เรื่องใหม่ของประเทศไทย เนื่องจากเคยใช้การเลือกตั้งแบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ มาตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 40 แต่คนทำรัฐประหารกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็แพ้เลือกตั้งอยู่ดีดังนั้น การเลือกตั้งคราวที่แล้ว (ปี 62) จึงใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว เพื่อสกัด “เครือข่ายทักษิณ” สุดท้ายคือมั่ว และเละเทะอย่างที่เห็น มีทั้งบัตรเขย่ง ได้ทั้ง ส.ส.ปัดเศษ! และ ส.ส. 1,700 คะแนนปัจจุบันยังไม่ทันเลือกตั้งด้วยบัตร 2 ใบเลย! แต่ “ผีทักษิณ” เข้ามาสิงสู่ในสมองของกลุ่มคนบางประเภทอีกแล้ว โดยบอกว่า พรรคเพื่อไทยได้เปรียบ เพราะบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะได้ ส.ส.เข้ามามากที่สุด“เสือออนไลน์” งงมากๆ กับ “ตรรกะ” แบบนี้ เพราะเงื่อนไข กฎ กติกาการเลือกตั้งบังคับใช้เหมือนกันทุกพรรค ถ้าพรรคก้าวไกล “เพอร์เฟค” ทั้งนโยบายพรรค และตัวผู้สมัคร ส.ส.ก็เจ๋ง! ประชาชนในเขตเลือกตั้งนั้นๆ เขาต้องเลือกทั้งคน และพรรค แต่ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ได้ ส.ส.เกินครึ่งของสภา ก็ต้องคิดไว้ตั้งแต่วันนี้ด้วยว่าแล้วจะไปจับขั้วกับฝั่งไหน?เหมือนกันถ้านโยบายพรรคประชาธิปัตย์ จับต้องได้ ทำได้จริง มีประโยชน์กับชาวบ้าน ส่วนตัวผู้สมัคร ส.ส.ก็เป็นคนมีคุณภาพ ไม่ใช่ถนัดแต่สร้างภาพ และไม่เอา “เสาไฟ” มาลงเลือกตั้ง ชาวบ้านก็ต้องเลือกประชาธิปัตย์ทั้งพรรคและคนเหมือนกันแล้วพรรคเพื่อไทยได้เปรียบหรือมีภาษีดีกว่าพรรคอื่นตรงไหน? ในเมื่อทุกพรรคการเมืองต่างใช้กฎ กติกาการเลือกตั้งเดียวกัน ทุกพรรคมีโอกาสออกไปหาเสียง นำเสนอนโยบายการทำงานกับชาวบ้าน ถ้านโยบายเข้าตาชาวบ้าน พูดจริงทำจริง และมีประโยชน์กับส่วนรวม ชาวบ้านเขาต้องเลือกอยู่แล้วหลังสุดนี่เปิดประเด็นใหม่ ทั้งบรรดา “สลิ่ม” และ “ติ่งส้ม” ปล่อยข่าวตั้งแต่ไก่โห่! ตั้งแต่กฎหมายลูกของบัตรเลือกตั้ง 2 ใบยังไม่ผ่านสภา ว่า โทนี่ วู้ดซัม (ทักษิณ ชินวัตร) และพรรคเพื่อไทย มี “ดีล” จับขั้วตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ หลังการเลือกตั้งคราวหน้ายิ่งเจอ “โทนี่” ออกมาปั่นกระแสว่าจะกลับบ้านเร็วๆ นี้ ข่าวเรื่องการ “ดีล” และการ “นิรโทษกรรม” จึงถูกปล่อยออกมาเป็นระลอกๆเรียกว่า “มโน” กันไปเป็นตุเป็นตะ! ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นไปไม่ได้เลย ตราบใดที่ “พี่น้อง 3 ป.” ยังไม่ยอมลงจากหลังเสือ จึงไม่มีทางเป็นไปได้!แต่ถ้าไม่มี “พี่น้อง 3 ป.” เมื่อไหร่นั่นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะการเมืองย่อมไม่มีมิตรแท้ ไม่มีศัตรูที่ถาวร แต่เชื่อเถอะถ้าไม่มี “พี่น้อง 3 ป.” ก็จะไม่มีพรรคพลังประชารัฐอีกต่อไป เนื่องจากภายในพรรคมีหลายมุ้ง วันไหนถ้าไม่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อม คอยเป็นตัวประสาน แล้วเป็น “ตัวจ่าย” ด้วยหรือเปล่าไม่รู้? พรรคพลังประชารัฐจะแตกกันไปคนละทิศละทางทุกวันนี้ พล.อ.ประวิตร มักจะบ่นกับคนสนิทเป็นประจำว่า “จะเดินไม่ไหวอยู่แล้ว ยังจะให้กูทำงานอีกหรือ” ดังนั้น ถ้า พล.อ.ประวิตร วางมือกลับไปพักผ่อนอยู่ที่บ้านเมื่อไหร่ พรรคพลังประชารัฐก็จบ!แต่ต้องไปถาม “พี่น้อง 3 ป.” ว่าจะยอมลงจากหลังเสือเมื่อไหร่? เพราะที่ทนยื้อ อยู่ทุกวันนี้คือรู้ชะตากรรมตัวเอง เนื่องจากลงจากหลังเสือปุ๊บ! มีคนจองกฐินเพียบ คดีต่างๆ จะทยอยเข้ามากมาย ชนิดที่ว่าแผลเหวอะหวะก็แล้วกัน.เสือออนไลน์