ไม่เฉพาะพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ออกมายื่นเรื่องถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะสิ้นสุดเมื่อไหร่?
จะสิ้นสุดลงในวันที่ 23 ส.ค.65 หรือจะไปสิ้นสุดในปี 2570 โน่น!
แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้มี “แขกเหรื่อ” ออกมารอขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ กันเพียบ! นับตั้งแต่คณาจารย์คณะนิติศาสตร์ 51 คน จาก 15 มหาวิทยาลัย ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องข้อกฎหมายในการดำรงตำแหน่งไม่เกิน 8 ปีของนายกฯ
โดยชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถเป็นนายกฯ หลัง 24 ส.ค.นี้ พร้อมเรียกร้องให้ตุลาการฯ ตีความโดยยึดตามตัวบทกฎหมาย และเป็นอิสระจากอำนาจทางการเมือง
ส่วน “ชมรมแพทย์ชนบท” ออกแถลงการณ์ “8 ปีแล้ว พอเถอะนะ” โดยระบุว่า กติกาทางสังคมเรื่องการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีรวมกันต้องไม่เกิน 8 ปี เป็นเจตนารมณ์ที่ก้าวหน้าของรัฐธรรมนูญ 2550 และ 2560 วันที่ 23 ส.ค.65 นับว่าครบ 8 ปี การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างชัดเจน ท่านรับเงินเดือนนายกรัฐมนตรีมา 8 ปีแล้ว ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีมา 8 ปีแล้ว รับสวัสดิการจากภาษีประชาชนมา 8 ปีแล้ว นี่คือข้อเท็จจริงที่ตรงไปตรงมาว่า เป็นนายกรัฐมนตรีมา 8 ปีแล้ว จึงถึงเวลาที่จะก้าวลงจากตำแหน่งอย่างมีศักดิ์ศรีตามเจตนารมย์แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
ในช่วงเวลาที่ยังเหลืออยู่นี้ ชมรมแพทย์ชนบท ขอเชิญชวนให้ทุกองค์กรในสังคมไทย ร่วมกันแสดงออก สร้างกระแส “8 ปี พอแล้ว” กันให้กระหึ่ม เพราะประเทศไทยยังมีคนดีคนเก่งที่สามารถทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีได้จำนวนไม่น้อย ขอให้นายกฯประยุทธ์มีสำนึกประชาธิปไตย ก้าวลงจากตำแหน่งตามกติกาอย่างคนรู้จักพอ เปิดทางให้เมืองไทยเดินไปข้างหน้า เปิดโอกาสให้ประชาธิปไตยได้เติบโต “8 ปีแล้ว พอเถอะนะ”
ขณะที่ “คณะหลอมรวมประชาชน” นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ “ทนายนกเขา” ก็จัดกิจกรรมชุมนุมที่ลานคนเมือง กทม. ระหว่างวันที่ 21-24 ส.ค.65 โดยใช้ชื่องานว่า “นับถอยหลัง 8 ปี ประยุทธ์” ตอนล้างบาง! “โคตรโกง บ้าอำนาจ เป็นทาส ปล้นชาติ ขายแผ่นดิน” นายจตุพรประกาศว่า พร้อมจะไปนอนค้างคืนหน้าทำเนียบรัฐบาลด้วย
ทางด้าน “กลุ่มราษฎร” และคณะ อาทิ พรรคโดมปฏิวัติ เครือข่ายรายงานเพื่อสิทธิประชาชน สหภาพคนทำงาน องค์การบริหารนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกลุ่มทะลุฟ้า คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน กลุ่มทะลุวัง กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก นำโดย “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ได้อ่านแถลงการณ์เรื่อง “ให้มันจบที่ 8 ปี” จี้ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ลาออก หยุดคิดยุบสภาทำเกิดสุญญากาศก่อนกฎหมายเลือกตั้งเสร็จ และประกาศชัดๆ ว่า หลังจากวันที่ 24 ส.ค.65 หากพล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่ก็แค่นายกฯ เถื่อน และคณะรัฐมนตรีนอกกฎหมาย หากยังดำรงตำแหน่งต่อไปจะยังเป็นชนวนความโกรธแค้น และต่อต้านขนาดใหญ่
นี่ยังไม่รวม “กระแส” คนส่วนใหญ่ของประเทศที่เบื่อ พล.อ.ประยุทธ์ กันเต็มทน! จากการบริหารประเทศในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะเศรษฐกิจไม่ดีต่อเนื่องกันมาหลายปี เงินทองหายาก ข้าวของเครื่องใช้ปรับราคาสูง ราคาพลังงานก็แพง
ดังนั้น หลังจากวันที่ 24 ส.ค.65 เป็นต้นไป พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ลำบาก! ถึงจะมีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ก็ลำบาก เนื่องจากผู้คนในประเทศยิ่งเสื่อมศรัทธาหนักขึ้น จากความ “ฉ้อฉล” ของรัฐธรรมนูญที่ พล.อ.ประยุทธ์ กับพวกเป็นคนเขียนขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจ
หรือถ้าวันที่ 24 ส.ค.65 เป็นต้นไป พล.อ.ประยุทธ์ ต้องหลุดออกจากตำแหน่ง ก็ยิ่งอยู่ลำบากมาก! เนื่องจากจะมีรายการ “เช็คบิล” ยาวเหยียดเป็นหางว่าว!
เท่าที่นึกออกตอนนี้ก็มี ปัญหาการยื่นบัญชีทรัพย์สินในอดีตต่อ ป.ป.ช. การระบายข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าว ตั้งแต่การเอาทหารไปถือกุญแจโกดังเก็บข้าวสาร เอาทหารไปตรวจสอบคุณภาพข้าว (ซึ่งไม่ใช่หน้าที่) จัดเกรด A-B-C ข้าวสารในโกดัง ก่อนประมูลขายให้พ่อค้า ซึ่งไม่มีใครเขาทำกัน การเอาข้าวสารคุณภาพดีไปขายเป็นข้าวอาหารสัตว์ และนำไปเผาเป็นพลังงานในราคาถูก
ที่พลาดไม่ได้ คือ การใช้คำสั่ง ม.44 ปิดเหมืองทองคำอัครา จ.พิจิตร ทั้งที่ไม่มีผลการตรวจสอบทางวิชาการ ทางวิทยาศาสตร์ ว่า มีปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของคนในพื้นที่ แม้การตัดสินข้อพิพาทในชั้นอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศจะลากยาวไปถึงปลายปี 65 ถ้าตัดสินว่าฝ่ายไทยแพ้! ต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับเหมืองฯ ไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท
งานนี้แม้จะยังไม่มีคำตัดสินออกมา แต่ฝ่ายไทยเสียค่าทนาย-ค่าที่ปรึกษากฎหมาย ไปแล้วหลายร้อยล้านบาท และข้อพิพาทดังกล่าวมีโอกาสสูงมากที่ฝ่ายไทยจะแพ้คดี ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จะดิ้นหนีความรับผิดชอบไปไม่ได้เลย เนื่องจากเป็นคนใช้ ม.44 แต่เพียงผู้เดียว งานนี้จึงเดิมพันสูงทั้งการติดคุก และถูกยึดทรัพย์สิน!!
เสือออนไลน์