ประเมินอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในขณะนี้น่าจะเหล่ตามองหานายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มากกว่าจะไปฝากอนาคตไว้กับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ
เนื่องจากพรรคภูมิใจไทยมีทีมเวิร์ค มีการบริหารจัดการที่ดีกว่า ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกระสุนดินดำ หายห่วงสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า จึงมี ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ ทยอยไหลเข้าพรรคภูมิใจไทยไปแล้วเกือบ 40 คน ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.65 เรื่อยมา
ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังกลวงโบ๋ ยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นนายทุนสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกฯ ต่อไปอีก 2 ปี เมื่อสแกนตัวบุคคลของพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังห่างจากพรรคภูมิใจไทยอยู่หลายขุม
ด้วยปัจจัยเหล่านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเล่นการเมืองอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์และกติกาอยู่แล้ว จึงยังยับยั้งชั่งใจ ยังผลุบๆ โผล่ๆ กับพรรครวมไทยสร้างชาติ เนื่องจากการตัดสินใจครั้งนี้ ถือว่าเป็นอีกครั้งใหญ่ในชีวิต ไม่ต่างอะไรไปกับการตัดสินใจทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57
เพราะเป็นการตัดสินใจเพื่อปูทางลงที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง จึงจำเป็นต้องอยู่ข้างๆ คนไว้ใจได้ อยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัยที่สุด เมื่อชั่งน้ำหนักกันแล้ว นายอนุทินน่าจะชัวร์กว่านายพีระพันธุ์ รวมทั้งพลพรรคประชาธิปัตย์ด้วยซ้ำไป
วันก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จึงแต่งตั้งนายพีระพันธุ์เป็นเลขาธิการนายกฯ เพื่อเป็นรางวัลปลอบใจกันมากกว่า! การแต่งตั้งเข้ามาให้เอื้อประโยชน์กับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะอายุของรัฐบาลชุดนี้ และอายุของสภาผู้แทนราษฎร เหลืออยู่เพียงไม่กี่เดือนแล้ว
หลายคนอาจมองว่า แต่งตั้งนายพีระพันธุ์เข้ามาดูแล “งบกลาง” ซึ่งจะว่าไปแล้วงบก้อนนี้ไม่ได้หวานหมูที่ใครจะคว้าเอาไปง่ายๆ เนื่องจาก มี ผอ.สำนักงบประมาณ และเลขาฯ สภาพัฒน์ คอยจ้องดูอยู่เหมือนกัน
ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จะยึดพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นเรือนตาย ก็ต้องให้นายพีระพันธุ์ใช้เวลาทุ่มเทไปกับการสร้างพรรคให้เต็มที่ โดยเฉพาะพรรคตั้งใหม่ ต้องออกตระเวนแนะนำตัวแทบทุกวันไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย เพื่อประกาศนโยบาย ทิศทางการทำงานของพรรค ควบคู่ไปกับการหาสมาชิกพรรค และหาตัวผู้สมัคร ส.ส.ด้วย
เรียกว่าพรรคตั้งใหม่ บรรดาผู้บริหารพรรคต้องเหน็ดเหนื่อยกว่านี้อีกเป็นเท่าตัว แล้วการเอาหัวหน้าพรรคมาเป็นเลขาธิการนายกฯ นั่งทำงานอยู่ในทำเนียบรัฐบาล ต้องคอยเป็นเงาตามนายกฯ เกือบตลอดเวลา จะเอาเวลาที่ไหนไปทำพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งยังลุ่มๆ ดอนๆ อยู่
นี่เป็นสัญญาณเตือนว่า พรรครวมไทยสร้างชาติกำลังโดน พล.อ.ประยุทธ์ “แกงหม้อใหญ่” แล้ว! พรรคนี้ไปไม่รอด ทำผลงานไม่เข้าเป้าจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ คาดหวังไว้
ดังนั้น จึงเหลือแต่พรรคภูมิใจไทยของนายอนุทิน และอาจารย์ใหญ่แห่งเมืองบุรีรัมย์ จะยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เป็นชายคาพักกาย เพื่อต่อวีซ่าเป็นนายกฯ ไปอีก 2 ปีได้หรือไม่?
เสือออนไลน์