เรื่องราวของอดีตนายกรัฐมนตรีวัยดึก ที่กำลังตกเป็นข่าวความสัมพันธ์ชู้สาวกับสาวอดีตแคดดี้สนามกอล์ฟ อายุรุ่นราวคราวหลาน ถึงขนาดมีการกล่าวหาว่า อดีตรองนายกฯ เป็นชู้กับภรรยาคนอื่นเรื่องราวดังกล่าวจะจบอย่างไร ใครถูก ใครผิด หรือว่างานนี้มีการ “วางงาน” กันหรือไม่ ต้องไปพิจารณากันที่ “ไทม์ไลน์” ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ใครมาก่อน ใครมาหลังแต่ที่แน่ๆ อดีตรองนายกฯ ได้ไปแจ้งความไว้กับตำรวจ สน.บางยี่ขัน ช่วงปลายปี 65 โดยกล่าวหาว่าพ่อ-แม่ สาวอดีตแคดดี้ และแฟนหนุ่ม ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ และตำรวจได้ทำสำนวนส่งฟ้อง พร้อมนำผู้ต้องหา 3 คน (แม่-สาว-แฟนหนุ่ม) ส่งให้อัยการไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 66 ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 1 คน คือ พ่อของสาวคนดังกล่าว ยังไม่มาพบตำรวจและอัยการ จึงถูกศาลออกมาจับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างเดือน ธ.ค. 64 - พ.ย. 65 กลุ่มผู้ต้องหาได้หลอกลวงอดีตรองนายกฯ ว่า สาวอดีตแคดดี้ยังไม่แต่งงาน ยังไม่มีสามี ทั้งที่จริงได้จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกับชายหนุ่มมาตั้งแต่ปี 60ทำให้อดีตรองนายกฯ หลงเชื่อ หลงรัก และอยากให้สาวอดีตแคดดี้มาดูแลอดีตรองนายกฯ ในฐานะคนรัก ประเภทที่ว่ารักจริงหวังแต่ง จึงนำเงินไปสู่ขอฝ่ายหญิงกับพ่อแม่ของฝ่ายหญิง ทั้งเงินสดที่มีการโอนเข้าบัญชีฝ่ายหญิง และทองคำ รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 19 ล้านบาทโดยฝ่ายพ่อ-แม่ทราบอยู่แล้วว่า ลูกสาวของตัวเองจดทะเบียนอยู่กินกับสามี แต่ได้ปิดบังความจริงทั้งหมดกับอดีตรองนายกฯ จึงแจ้งความเอาผิดผู้ต้องหาทั้ง 4 คนในที่สุดเรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร เนื่องจากอดีตรองนายกฯ ชอบตีกอล์ฟ จึงไปเจอสาวอายุคราวหลาน ซึ่งทำงานเป็นแคดดี้อยู่ในสนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง และเกิดถูกชะตากัน จึงคบหาดูใจกันมาเกือบ 10 ปีโดยช่วงที่เจอกันใหม่ๆ ในสนามกอล์ฟ เธอไม่ได้หน้าตาสวย หุ่นดี เหมือนในภาพที่ปรากฏว่อนอยู่ในขณะนี้ ฝ่ายชายจึงให้เงินไปทำสวย ทำศัลยกรรม เสริมความงาม จนรูปร่างหน้าสวยงามขึ้น กลายเป็นคนละคนไปเลยโดยทั้งสองยังคบหาดูใจกันไปตามปกติ จนกระทั่งฝ่ายชายต้องหลบเข้าไปอยู่ในเรือนจำอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อออกจากเรือนจำ และเห็นว่าตัวเองอายุมากแล้ว จึงขอเลิกกับสาวอายุคราวหลาน แต่สาวพยายามตื๊อเพื่อขอให้ฝ่ายชายอย่าทอดทิ้ง และช่วยส่งเสียค่าเลี้ยงดูเธอเป็นรายเดือน ซึ่งในที่สุดฝ่ายชายก็ใจอ่อนยอมรับข้อเสนอ โดยมิได้ล่วงรู้ว่าสาวมีหนุ่มคนใหม่ไปแล้วต่อมาไอ้หนุ่มคนใหม่เข้ามาเจ้ากี้ เจ้าการ ขอเจรจาต่อรองกับอดีตรองนายกฯ เพื่อให้จ่ายค่าเลี้ยงดูเป็นเงินก้อนเดียว 25 ล้านบาท แล้วจบๆ กันไป แต่อดีตรองนายกฯ ยืนกระต่ายขาเดียว ไม่ยอมจ่ายแม้แต่บาทเดียว จึงกลายเป็นที่มาของ “ทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์” ในเวลานี้ว่าใครถูก หรือใครผิดกันแน่ หรือเป็นขบวนการวางงาน แบล็คเมล์เพื่อตบทรัพย์?แต่ที่แน่ๆ เมื่อเช็คไทม์ไลน์กันแล้ว อดีตรองนายกฯ เขามาก่อนไอ้หนุ่มคนใหม่!!เสือออนไลน์