นายไพศาล พืชมงคล อดีตเป็นกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) , อุปนายกและเลขาธิการสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน , อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) , นักกฎหมายชาวไทย อดีตสมาชิกวุฒิสภาและอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และผู้เชี่ยวชาญที่เกาะติดสถานการณ์การเมืองไทยและการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ “การเข้าแทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่นของกลุ่มประเทศมหาอำนาจโลก” ได้ออกมาโพสต์เตือนมหาภัยแห่งหายนะที่จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็น “ยูเครน 2” ซึ่งมีสาระสำคัญที่น่าสนใจ โดยระบุว่า…
หลังจากสหรัฐได้ประกาศยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ในสมัยประธานาธิบดีทรัมป์ และประเทศไทยโดยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ได้ทำแถลงการณ์ร่วมเข้าร่วมยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกแล้ว ทำให้ประเทศไทยของเราเบี่ยงเบนไปในลักษณะเลือกฝักฝ่าย ซึ่งขัดกับหลักวิเทโศบายแห่งชาติที่ปฏิบัติมาตั้งแต่รัชกาลที่ 5
นั่นคือหลักวิเทโศบายที่ว่า ประเทศไทยจะไม่ตั้งตนเป็นศัตรูกับชาติใดในโลกนี้ และประเทศไทยจะต้องสร้างมิตรไมตรีกับทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นหลักวิเทโศบายที่สำคัญของชาติ ที่สมเด็จพระมหากษัตริย์และบรรพชนไทย ได้ใช้เป็นธงชัยและเกราะเพชรคุ้มครองป้องกันประเทศของเราให้รอดปลอดภัยตลอดมาทุกสถานการณ์
ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ได้ถือจีนเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง ที่จะต้องขัดขวางกำจัดด้วยทุกมาตรการ ทุกรูปแบบและทุกมิติ แม้กระทั่งการทำสงคราม ซึ่งย่อมหมายความรวมถึงพันธมิตรของจีนด้วย ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ และประเทศกลุ่ม SCO ประเทศกลุ่ม BRICS ซึ่งเป็นพันธมิตรของจีน
เมื่อประกาศยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกแล้ว สหรัฐได้เปิดฉากการรุกด้วยสงครามการค้ากับจีนครั้งใหญ่ที่สุด ตามมาด้วยสงครามชีวภาพ คือการแพร่ระบาดของไวรัสโคบ้า และในสถานการณ์นั้นกลับเกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้นในยูเครน จนกระทั่งกองทัพรัสเซียได้เข้าปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครน
การสงครามระหว่างรัสเซียและพันธมิตรในดินแดนยูเครนในตอนแรกเข้าใจกันว่า เป็นสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน แต่เวลาหนึ่งปีผ่านไปความจริงก็ปรากฏชัดเจนว่า แท้จริงเป็นสงครามระหว่างกลุ่มประเทศนาโต้ นำโดยสหรัฐกับกลุ่มประเทศ SCO นำโดยรัสเซีย โดยมียูเครนเป็นสมรภูมิ
ผลจากสงครามในยูเครนทำให้ปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกชะงักงัน ทั้งที่ได้จัดตั้งแกนปฏิบัติการแล้วถึง 3 แกนคือ
แกน QUAD ประกอบด้วย สหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น มีพื้นที่ปฏิบัติการในมหาสมุทรอินเดีย โดยมีอิหร่าน พม่า จีน และรัสเซีย เป็นเป้าหมาย
แกน AUKUS ประกอบด้วยสหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย แต่ความจริงก็รวมญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน มีพื้นที่ปฏิบัติการในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยมีจีน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย เป็นเป้าหมาย
แกนอาเซียน ประกอบด้วยสหรัฐ อังกฤษ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และมีการประกาศชื่อประเทศไทยเป็นภาคีด้วย ตามแถลงการณ์ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก โดยถือพม่า จีน และรัสเซีย เป็นเป้าหมาย
เพราะเกิดเหตุการณ์ยูเครน จึงทำให้แกน QUAD ประสบความล้มเหลว ไม่สามารถเคลื่อนไหวอะไรได้ เนื่องจากจีน รัสเซีย อิหร่าน ได้จัดการซ้อมรบและวางกำลังเป็นวงหมากล้อมในมหาสมุทรอินเดีย เพื่อปกป้องคุ้มครองพม่า ไม่ให้ถูกใครรุกรานยึดครอง
ในขณะเดียวกันก็มีการปรับแสนยานุภาพของจีน รัสเซีย และเกาหลีเหนือครั้งใหญ่ในแปซิฟิก จนทำให้พื้นที่ยุทธศาสตร์ 3 ทะเล 3 ช่องแคบ และ 3 เส้นทางในแปซิฟิก กลายเป็นพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายต่างวางกำลังยันและคานกันไว้ชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เพราะเกิดสงครามยูเครน และสถานการณ์ในแอฟริกาได้พลิกผัน ประเทศในแอฟริกาทั้งหมดได้หันไปจับมือกับกลุ่ม SCO ทำให้กลุ่มนาโต้สูญเสียพันธมิตรในแอฟริกาทั้งทวีปไปแล้ว รวมทั้งซูดานซึ่งเป็นประเทศหลังสุด
เพราะเกิดสงครามยูเครน สถานการณ์ในตะวันออกกลางก็เกิดพลิกผันครั้งใหญ่ จีน รัสเซีย ประสบชัยชนะทางการทูต สามารถดึงเอาประเทศกลุ่มอาหรับทั้งหมด นำโดยซาอุดิอาระเบียให้ถอนตัวออกจากกลุ่มนาโต้และสหรัฐ มาเข้ากับกลุ่ม SCO ล้มเลิกระบบเปโตรดอลลาร์ และใช้เงินหยวนในการซื้อขายน้ำมัน ทำให้ประเทศ OIC ทั้งหมดกลายเป็นพวก SCO ด้วย
ที่สำคัญ ทำให้กองกำลังปฏิวัติอิสลามทั่วทั้งตะวันออกกลางประสานความสามัคคีและกำลังกันอย่างแน่นแฟ้น เคลื่อนกำลังเข้าประชิดดินแดนอิสราเอลทุกด้าน และเปิดสงครามรายวันกับอิสราเอลอยู่ในขณะนี้ ทำให้เกิดภาวะละล้าละลังแก่กองทัพของนาโต้ที่นำโดยสหรัฐว่าจะเอาอย่างไรกันดี
ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ในลาตินอเมริกาก็เกิดการพลิกผัน จากคิวบาซึ่งเคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับสหรัฐเพียงประเทศเดียวก็ขยายตัวไปทั่วทั้งทวีปอเมริกาใต้ ทั้งบราซิล เวเนซุเอลา ชิลี และอีกหลายประเทศได้เข้าร่วมกับ SCO ในขณะที่มีกองกำลังนักแรงงานรับจ้างของจีนกว่า 500,000 คน ของอิหร่านกว่า 300,000 คน ปักฐานอยู่ที่เวเนซุเอลา และพร้อมเคลื่อนพลเข้าสู่พรมแดนสหรัฐที่ใกล้กับเวเนซุเอลามากที่สุด
ในขณะเดียวกันสหรัฐได้ขยายบทบาทและการเคลื่อนไหวในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น โดยให้จัดตั้งกองบัญชาการนาโต้ 2 ขึ้นที่ญี่ปุ่น ซึ่งเดิมมีเพียงกองบัญชาการใหญ่ซึ่งวางไว้ที่สถานกงสุลใหญ่ที่เชียงใหม่เท่านั้น
ต่อมาสหรัฐและเลขาธิการนาโต้ก็แถลงว่า นาโต้จะขยายบทบาทในการต่อต้านการคุกคามของจีนตามยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ด้วย โดยจะตั้งกองบัญชาการใหญ่ของนาโต้ 2 ที่ญี่ปุ่น
แต่ในความเป็นจริง ขณะนี้ประเทศนาโต้ทั้งหมดกำลังจมปลักอยู่ในยุทธศาสตร์สงครามยืดเยื้อในยูเครนชนิดที่รุกไม่ได้ ถอยไม่ได้ อยู่เฉย ๆ ก็ไม่ได้ เหมือนสภาพที่เคยเกิดขึ้นในเวียดนามและอัฟกานิสถานมาแล้ว
คอยดูกันต่อไปว่า ความคิดนาโต้ 2 จะเป็นความฝันกลางวันหรือไม่?
ขอบคุณข้อมูล:
สิริอัญญา
วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม 2566