ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งความคืบหน้าการดำเนินการกรณี MORE โดยตรวจสอบการกระทำความผิดและกล่าวโทษตามกระบวนการไปแล้วทั้งหมด พร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อไปหากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมทั้งประสานความร่วมมือกับ DSI ภายใต้คณะทำงานเพื่อการบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายตามที่ ก.ล.ต. ได้เร่งรัดการดำเนินการนำผู้กระทำผิดฐานสร้างราคาหลักทรัพย์เข้าสู่กระบวนการบังคับใช้กฎหมายมาโดยตลอด นับตั้งแต่เหตุการณ์การสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) (MORE) ระหว่างเดือนกรกฎาคม – พฤศจิกายน 2565 นั้น ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษผู้กระทำความผิดฐานสร้างราคาหลักทรัพย์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ และวันที่ 27 มิถุนายน 2566 จำนวน 18 ราย และ 32 ราย ตามลำดับ โดยปัจจุบันกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษแล้ว และ ก.ล.ต. ส่งข้อมูลไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาและมีการประสานการทำงานร่วมกันด้วยแล้วนางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า “จากการติดตามความคืบหน้าของคดี MORE เมื่อเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และได้มีการประสานความร่วมมือกับ DSI นั้น โดย DSI อยู่ระหว่างการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายในฐานความผิดที่เกี่ยวกับหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงฐานความผิดการสร้างราคาหลักทรัพย์ที่ ก.ล.ต. ได้ดำเนินการกล่าวโทษไปด้วย ซึ่งในส่วนของการให้ข้อมูลเพื่อดำเนินคดีนั้น DSI ได้ประสานงานให้ ก.ล.ต. เข้าให้ข้อมูลแล้ว” ทั้งนี้ ตามกระบวนแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว นายกรัฐมนตรีจะลงนามในคำสั่งแต่งตั้งต่อไป สำหรับประเด็นที่มีการสอบถามในเรื่องการนำตัวผู้กระทำผิดเพิ่มเติมเพื่อเข้าสู่กระบวนการบังคับใช้กฎหมายฐานสร้างราคาหลักทรัพย์นั้น ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ทำการตรวจสอบการกระทำความผิดและกล่าวโทษไปแล้วทั้งหมดตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในการตรวจสอบตามกระบวนการแล้ว “ก.ล.ต. ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ และได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในส่วนที่มีผู้ให้เบาะเสเพิ่มเติมนั้น ในฐานะเลขาธิการ ก.ล.ต. จะติดตามดูแลและหากมีพยานหลักฐานที่จะดำเนินการตามกฎหมายได้ ก.ล.ต. จะดำเนินการต่อไป” เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว