บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส กรุ๊ปฯ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 4 รุ่นให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน ได้เกินกว่าเป้าหมาย ต้องนำหุ้นกู้สำรองออกเสนอขายเพิ่มเติม รวมมูลค่าเสนอขาย 15,057.10 ล้านบาท สะท้อนความมั่นใจของผู้ลงทุน พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจสร้างการเติบโตด้วยกลยุทธ์ 3M : MOVE, MIX และ MATCH
นางสาวชวดี รุ่งเรือง ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “บีทีเอส กรุ๊ปฯ” เปิดเผยว่า “บีทีเอส กรุ๊ปฯ” ประสบความสำเร็จในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4 รุ่น ประกอบด้วย อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.80% ต่อปี อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.40% ต่อปี อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.80% ต่อปี และอายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.95% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน รวมมูลค่า 15,057.10 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10,000 ล้านบาท จึงต้องนำหุ้นกู้สำรองออกเสนอขายเพิ่มเติมจำนวน 5,057.10 ล้านบาท โดยเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคมถึง 1 พฤศจิกายน 2566 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 6 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โดยได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนอย่างมาก
สำหรับหุ้นกู้ “บีทีเอส กรุ๊ปฯ” และบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566
“บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ลงทุนที่ให้ความไว้วางใจลงทุนในหุ้นกู้ ‘บีทีเอส กรุ๊ปฯ’ รวมถึงขอบคุณสถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่าย ที่สนับสนุนข้อมูลให้กับผู้ลงทุน และอำนวยความสะดวกด้านช่องทางการจองซื้อ เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงหุ้นกู้ ‘บีทีเอส กรุ๊ปฯ’ ได้ง่ายขึ้น โดยหลังจากนี้ บริษัทฯ จะเดินหน้าสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจตามแผน ภายใต้กลยุทธ์ 3M : MOVE, MIX และ MATCH เพื่อตอกย้ำว่า ‘บีทีเอส กรุ๊ปฯ’ เป็นมากกว่าบริษัทที่ให้บริการด้านระบบขนส่งมวลชน (Beyond Transportation Company) โดยมีเป้าหมายในการขยายธุรกิจที่หลากหลาย สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป” ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บมจ.บีทีเอส กรุ๊ปฯ กล่าว
ปัจจุบัน บีทีเอส กรุ๊ปฯ ดำเนินธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1) ธุรกิจ MOVE ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการคมนาคมแบบ door-to-door แก่ผู้โดยสารด้วยรูปแบบการเดินทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางราง ทางถนน ทางน้ำหรือทางอากาศ และเป็นผู้บุกเบิกรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี 2) ธุรกิจ MIX หรือผู้ให้บริการทางการตลาดในรูปแบบ Offline-to-Online โซลูชั่นส์ ที่ได้นำการใช้ Smart DATA ในการเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกกว่า 40 ล้านรายการ จากแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา (Advertising) ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล (Digital Services) ธุรกิจการจัดจำหน่าย (Distribution) และกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดบริการด้านการตลาดที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในทุก ๆ จุดของการเดินทางเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น และ 3) ธุรกิจ MATCH ที่เป็นการแสวงหาโอกาสและความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการแบ่งปันข้อมูลภายใต้แพลตฟอร์มของบริษัทฯ MOVE และ MIX ให้แก่กลุ่มบริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจ
หมายเหตุ: เกี่ยวกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส กรุ๊ปฯ)
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส กรุ๊ปฯ) เป็นบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจใน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ MOVE, MIX และ MATCH โดยมีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) นอกจากนี้ บีทีเอส กรุ๊ปฯ ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของหุ้น Bluechip ที่อยู่ในดัชนี SET50 และได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน (Thailand Sustainability Investment หรือ THSI) อีกทั้งยังเป็นสมาชิกของดัชนี MSCI Asia Pacific, FTSE4Good และ Dow Jones Sustainability Index (DJSI)
บีทีเอส กรุ๊ปฯ เป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นบริษัทขนส่งมวลชนทางรางแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก ที่บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) จากความมุ่งมั่นในการดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonisation) ของบริษัทฯ ประกอบกับการมุ่งเน้นในการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ในมิติต่างๆ ส่งผลให้ บีทีเอส กรุ๊ปฯ เป็นบริษัทที่ยั่งยืนที่สุดในโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมโดย S&P Global