มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ว่าในที่ประชุม ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดกรณีกล่าวหา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กับพวก ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ในการอนุมัติโครงการแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ 163 แห่งทั่วประเทศ และกรณีอนุมัติโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ (โรงพัก) ทดแทน 396 แห่ง ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9
โดยกรณีนี้มีผู้ถูกกล่าวหา 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 กล่าวหานายสุเทพ กับพวก ว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ในการก่อสร้างจำนวน 396 แห่ง โดยมีการยกเลิกแนวทางการจัดจ้างแบบแยกการเสนอราคาเป็นรายภาค และอนุมัติให้รวมสัญญาก่อสร้างเป็นสัญญาเดียว อันเป็นการกีดกัน และเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคารายใดรายหนึ่ง
กลุ่ม 2 กล่าวหา พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทน ผบ.ตร. และคณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่พักสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง ของตำรวจภูธรภาค 1-9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ กับพวก
เรื่องนี้ผ่านมากว่า 5 ปี
จนกระทั่งวันที่ 22 ก.ค.62 ที่ประชุม ป.ป.ช. ได้พิจารณาทั้งสองส่วนพร้อมกัน และมีมติ ชี้มูลความผิด นายสุเทพ พล.ต.อ.ปทีป และพล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง แล้ว
โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสำนวน ก่อนส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุด
โครงการแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ 163 แห่งทั่วประเทศ และโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ (โรงพัก) ทดแทน 396 แห่งทั่วประเทศ เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และมีนายสุเทพเป็นรองนายกฯ ที่กำกับดูแลงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ..
แต่ให้ ”บริษัทผู้รับเหมาเพียงรายเดียวรับงานก่อสร้างไปทั้งหมด”
คนงานผสมปูนฯ ยังรู้ว่า โครงการนี้ไม่เสร็จแน่ๆ แล้วก็สร้างไม่เสร็จแม้แต่หลังเดียว!
ต่อมารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ปี 57) ต้องอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมเข้าอีกกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อให้โครงการดังกล่าวเดินหน้าก่อสร้างให้แล้วเสร็จ เนื่องจากตำรวจทั่วประเทศเดือดร้อนมาก เพราะไม่มีที่นั่งทำงาน
เรื่องนี้มีการอภิปรายกันกว้างขวางในสภาฯ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามารับผิดชอบในการสอบสวน ทำสำนวนเพื่อเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งจะว่าไปแล้วเรื่องโรงพักร้างสร้างไม่เสร็จ ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อน มีตัวละครเกี่ยวข้องเพียงไม่กี่คน
แต่สำนวนคดีนี้ก็แช่อยู่ใน ป.ป.ช. มานานหลายปี?
ในขณะเดียวกัน ก็มีเอกสารหลุดมือมาจากเจ้าหน้าที่รัฐ ว่าคดีโรงพักร้างสร้างไม่เสร็จ แท้ที่จริงแล้วมีเอกสารสำคัญอยู่เพียง 4 ชุด (16 หน้า) ไม่มีอะไรซับซ้อน
โดยเอกสารชุดที่ 1 เมื่อเดือน พ.ย. 61 เป็นข้อมูลรายละเอียดที่สำนักงบประมาณ ทำเรื่องถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้คำแนะนำถึงวิธีการจัดสรรงบประมาณ สำหรับโครงการก่อการสร้างโรงพักทดแทน
เอกสารชุดที่ 2 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 ก.พ. 52 อนุมัติหลักการสร้างโรงพักทดแทน ขึ้นมาแทนโรงพักเก่าๆ ที่มีอายุใช้งานมากกว่า 30 ปีขึ้นไป มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ทั้งโรงพักขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ จำนวน 396 หลัง วงเงิน 6,672 ล้านบาท ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ปี 52-54 แต่เมื่อก่อสร้างเสร็จ ควรรื้ออาคารเดิม เพื่อความปลอดภัยในการใช้อาคาร และเพื่อไม่เป็นภาระของภาครัฐ ในการจัดสรรงบซ่อมแซมดูแลรักษา
ส่วนวิธีการจัดจ้างให้ใช้วิธีอิเล็กทรอนิกส์ โดยส่วนกลางแบบรวมการครั้งเดียว โดยแยกการเสนอราคาเป็นรายภาค (ตำรวจภูธรภาค 1-9) ลงชื่อโดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และนายสุเทพ
เอกสารชุดที่ 3 ช่วงเดือน พ.ย.52 เมื่อหมดยุค พล.ต.อ.พัชรวาท มีการปรับลดงบลงมาเหลือ 6,298 ล้านบาท และให้สำนักงานตำรวจฯ ยกเลิกการดำเนินงานจัดจ้างโดยส่วนกลางแบบรวมการครั้งเดียว โดยแยกการเสนอราคาเป็นรายภาค 1-9
หลังจากนั้นได้เปลี่ยนมาให้สำนักงานตำรวจฯ ดำเนินการประกาศประกวดราคาจัดจ้างก่อสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง วงเงิน 6,298 ล้านบาท ด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยกองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจฯ เป็นหน่วยงานจัดจ้างก่อสร้างทุกอาคารรวมกันในครั้งเดียว
นอกจากนี้ยังห้ามรื้อทุบทิ้งอาคารเดิม ให้เก็บไว้เพื่อประโยชน์ต่อไป เพราะในอนาคตจะของบสร้างใหม่ยาก ลงชื่อกำกับโดย “พล.ต.อ.” กับนักการเมืองคนดัง
เอกสารชุดที่ 4 เดือน ธ.ค. 54 คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) กรมบัญชีกลาง ทำเรื่องถึง ผบ.ตร. หลังจากมีเอกชนร้องขอความเป็นธรรมในการประมูลสร้างโรงพักทดแทน ว่าไม่มีความเป็นธรรม ไม่โปร่งใส
โดย กวพ.อ. มีข้อสังเกตว่า สำนักงานตำรวจฯ ไม่ได้กระจายการจัดซื้อจัดจ้างไปตามที่ ครม.กำหนด จึงเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามมติ ครม. ลงชื่อโดย น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง และประธาน กวพ.อ.
ต่อมา น.ส.สุภา ได้มานั่งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. จนถึงปัจจุบัน จนกระทั่งมีการลงดาบฟันนายสุเทพ-พล.ต.อ.ปทีป-พล.ต.ท.สุพร หลังจากลากยาวมากว่า 5 ปี
จากคดีง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ปล่อยให้ล่าช้าเนิ่นนาน จะให้เป็นมหากาพย์ “โรงพักร้าง” เสียอย่างนั้น!
โดย.. เสือออนไลน์