ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นที่ถูกนักลงทุนต่างชาติกระหน่ำถล่มขายหุ้นออกมา โดยไม่มีทีท่าจะหยุดขาย และมีแนวโน้มว่า หากรัฐบาลไม่มีมาตรการอะไรออกมา จะส่งผลให้บรรยากาศการซื้อ-ขายหุ้นจะเงียบเหงาและตายซากไปทุกวันนั้น!
ล่าสุด เพจ SHINESTOCK โพสต์แนะหนึ่งในวิธีการการแก้ปัญหาให้การซื้อ-ขายในตลาดหุ้นคลี่คลายขึ้นในทางที่ดี โดยระบุว่า..
วันนี้ (23 มกราคม 2567) SET ลบ 13.38 จุด ปิด 1,356.54 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,638.21 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นไหลลงอย่างเนื่อง ทำนิวโลว์ของปีไปเรื่อยๆ นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นออกมาไม่หมดสักที
แอดเห็นข่าวรัฐบาลจีน เตรียมเงิน 10 ล้านล้านบาท มาพยุงตลาดหุ้น เพื่อรักษาความมีเสถียรภาพของตลาดหุ้น เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
ถือว่า เป็นเรื่องที่เด็ดขาดและต้องรีบทำ แม้จะเป็นรัฐบาลจีนที่ปกครองโดยคนกลุ่มเดียว แต่ยังคำนึงถึงความเสี่ยงที่ไม่สามารถรับมือได้หากปล่อยให้ตลาดหุ้นพัง และทุกอย่างบานปลายเกินกว่าจะแก้ไขได้
กลับมาที่ประเทศไทยกันบ้าง ที่มีลักษณะการใช้ข้อบังคับทางเศรษฐกิจ คล้ายกับประเทศจีน
ยกตัวอย่างกรณี การลงทุนใน EEC ที่เปิดกว้างมานานแล้วหลายปี แต่ก็ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน หรือจะดึงเงินเข้าประเทศเลย แถมยังไปผุดโครงการใหม่ Landbridge
แบบนี้คงไม่ต้องพูดว่าจะเกิด Landbridge ได้หรือไม่ เพราะความเชื่อมั่นแรกจาก EEC ไม่มีแล้ว ความเชื่อมั่นที่จะทำอะไรต่อก็คงจะมลายหายไปอีก
ในขณะที่ตลาดหุ้นก็มีทิศทางการปรับตัวที่เหมือนกันกับจีน นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นเหมือนกัน แม้แต่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในสายตาของต่างชาติ ก็มีความคล้ายกับจีน แต่ทำไมเรายังไม่ขยับหรือเริ่มทำอะไรบ้างเลย
ความเชื่อมั่นที่หายไปของนักลงทุนต่างชาติ นี่แหละ คือ สิ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยพัง ไม่เช่นนั้น เราคงไม่เห็นการเทขายหุ้นอย่างดุเดือดเลือดพล่านขนาดนี้ ขายทุกวันๆ ละ 3-5 พันล้านบาท
ขนาดตอนนี้ยังไม่จบเดือน แรงขายทะลุ 2.3 หมื่นล้านบาท และมีโอกาสจะเกิน 1 เท่าตัว (3 หมื่นล้านบาท) ยอดเฉลี่ยขายรายเดือนของปี 2566 ตลอดทั้งปี
การที่รัฐบาลไม่สนใจปากท้องชาวบ้าน ปล่อยไข่ขึ้นราคา ค่าไฟแพง ฯลฯ อีกทั้ง ไม่สนใจแหล่งระดมของเอกชน (ตลาดหุ้น) ที่ไม่ต้องไปพึ่งพิงเงินกู้จากสถาบันการเงิน และปล่อยให้เสียหาย โดยไม่หาทางป้องกันแบบนี้ ท่าทางจะต้องลำบากกันทั่วหน้า
วันนี้ตลาดหุ้นเล่นท่าเดิม เปิดสูงปิดต่ำ แถมต่ำมากแม้จะไม่ได้ปิดโลว์ แต่สถานการณ์ดูไม่ดี หุ้นใหญ่ถูกเทขายหนัก ทั้ง AOT, CPALL, GULF, ADVANC, CPF, SCC เป็นต้น จะเรียกได้ว่า มีรอดแค่ไม่กี่ตัว อาทิ KTB, KBANK, BBL, TRUE
การที่รัฐบาลไทยจะประคองตลาดหุ้นเอาไว้ ไม่ต้องใช้เงินเท่ากับจีน เอาแค่ดึง LTF กลับมา และดึงเงินลงทุนไทยที่ไปต่างประเทศให้กลับมา งดการส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศ แค่นี้ก็น่าจะทำให้ทุกอย่างคลี่คลายขึ้น
วิธีแบบนี้ ใช้เงินน้อยกว่าปล่อยให้มันพังแล้วค่อยมากอบกู้ทีหลัง ไม่รู้ว่า จะต้องใช้เงินมากเท่าไหร่
สำหรับยอดซื้อขายสุทธิวันที่ 23 ม.ค. 2567
นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ +200.42 ล้านบาท
พอร์ตโบรกเกอร์ ขายสุทธิ -506.90 ล้านบาท
.
นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ -2,032.67 ล้านบาท
นักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ +2,339.15 ล้านบาท
หมายเหตุ: ขอบคุณข้อมูล เพจ SHINESTOCK