วินาทีนี้ สถานการณ์วิกฤติสื่อยังไหลไม่หยุด ล่าสุดสถานีโทรทัศน์ช่อง TNN จ้างออกอีกนับ 100 ฟาก อสมท.สวนกระแสแจกอั่งเปา พนง.ครั้งแรกในรอบ 3 ปี แต่ข่าวร้ายสิ้นปีมีหวิวตามสื่ออื่น! ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ รายงานว่า วิกฤติสื่อมวลชนยังคงเลือดไหลไม่หยุด หลัง 7 สถานีทีวีดิจิทัล ทยอยคืนใบอนุญาตแก่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จนทำให้ 7 ช่อง ทีวีดิจิทัลต้องลอยแพพนักงานกว่า 2,000 คนล่าสุด สถานีโทรทัศน์ช่อง ทีเอ็นเอ็น (TNN) ได้ปรับโครงสร้างและประกาศเลิกจ้างพนักงานทั้งฝ่ายข่าวและพนักงานฝ่ายอื่นๆ อีก 100 คน โดยก่อนหน้านั้นทางสถานีได้เปิดโครงการสมัครใจลาออกแล้ว และพนักงานบางส่วนนั้นก็ถูกเลิกจ้างโดยไม่รู้ตัวมาก่อน หลายคนเดินทางมาทำงานปกติก่อนจะถูกฝ่ายบุคคล หรือ HR แจ้งแก่พนักงานว่า ไม่ต้องมาทำงานแล้วฟาก บมจ.อสมท. ได้มีการเผยแพร่สารจากนายเขมทัต พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2562 โดยมีเนื้อหาที่กล่าวถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในช่วงระยะ 6 เดือนแรกของปีนี้ และการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจทีวีดิจิทัล ทำให้ธุรกิจสื่อไม่เติบโตและรุ่งเรืองเหมือนที่ผ่านมา รวมทั้ง อสมท. ยังมีภาระต้นทุนด้านบุคลากรสูงและรูปแบบองค์กรที่ไม่เอื้อต่อการแข่งขัน ทำให้ อสมท. ไม่สามารถอยู่ในสถานะที่มั่นคง แข็งแรงและมีกำไรเหมือนที่ผ่านมาแม้สถานการณ์ธุรกิจสื่อปัจจุบันจะยังไม่สดใสนัก แต่ผลการดำเนินงานของ อสมท ในปี 2561 เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น ฝ่ายบริหารจึงได้เสนอคณะกรรมการ บมจ.อสมท พิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนพนักงานระดับ “ผู้อำนวยการฝ่าย” ลงมา และจ่ายค่าครองชีพแบบเหมาจ่ายให้กับลูกจ้างรายวัน วงเงิน 15 ล้านบาท โดยมีผลย้อนหลังไปตั้งแต่เดือน ม.ค. 2562 ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มเงินเดือนครั้งแรกในรอบ 3 ปีของหน่วยงานแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังปี 2562 อสมท จำเป็นต้องลดต้นทุน บางส่วนและปรับปรุงกระบวนการขายและการตลาดใหม่ รวมทั้ง ปรับปรุงรายการให้สามารถแข่งขันและแย่งชิงเม็ดเงินโฆษณาในตลาดได้ โดยจะมุ่งเน้นสร้าง “แพลตฟอร์ม ดิจิทัล” เพื่อหารายได้รองรับการสิ้นสุดสัมปทานและสถานการณ์เม็ดเงินโฆษณาที่ชะลอตัวทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจและองค์กร เพื่อลดการขาดทุนในธุรกิจเดิมและสร้างรายได้ใหม่ จากธุรกิจดิจิทัลและดาต้า อาจทำให้บางหน่วยงานต้องควบรวมกันเพื่อให้เกิดเป็นหน่วยงานใหม่ที่จะสร้างเสถียรภาพให้องค์กร โดยได้แต่งตั้งคณะทำงาน 4 คณะ เพื่อผลักดันให้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ โดยมีรายงานว่านโยบายการปรับโครงสร้างธุรกิจและองค์กรใหม่ อสมท. ข้างต้น จำเป็นต้องมีการปรับลดพนักงานบางส่วนลง จึงเตรียมประกาศ "โครงการร่วมใจจาก" ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ โดยจะให้ผลประโยชน์ที่ดีที่สุดและเป็นธรรมกับผู้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะดำเนินการเพียงครั้งเดียวเในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 โดยปัจจุบัน อสมท. มีพนักงานอยู่ราว 1,400 คน หมายเหตุ: สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ ได้เกาะติดวิกฤติสื่อตกงานมาโดยตลอด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม:Special Report: ขออย่าลอยแพกันเลย! http://www.natethip.com/news.php?id=721