หลังจากรัฐบาลจีนประกาศผลสำเร็จโครงการผลิตเอทานอลจากถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก (แปลงถ่านหินเป็นเอทานอล) กำลังผลิต 500,000 ตัน/ปี โดยได้เริ่มดำเนินการทดลองที่เมือง อวี้หลิน มณฑลส่านซี ไปแล้ว
…
ส่งผลให้ตลาดพลังงานเกิดความตื่นตัวอย่างคึกคัก ขณะที่ตลาดสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้องกับวัตถุดิบในการผลิตเอทานอล ไม่ว่าจะเป็นข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง หรืออ้อย เกิดความระส่ำไปทั่วโลก ด้วยไม่คิดว่าจะมีวัตถุดิบอื่นใดเข้ามาทดแทนได้
ล่าสุด สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย ได้จัดประชุมสมาชิกสมาคมเป็นการเร่งด่วน เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อประเมินผลกระทบอย่างรอบด้าน รวมทั้งแนวโน้มสินค้าเกษตรส่งออกไทย โดยเฉพาะ ข้าว ข้าวโพด และมันเส้นส่งออก หลังจากมีรายงานว่า จีนผุดโรงงานผลิตเอทานอลจากถ่านหินทดแทนการนำเข้ามันเส้นได้ 2 ล้านตันแล้ว
ทั้งนี้ สมาคมการค้ามันฯ ได้ประเมินแนวโน้มในปี 2568 ปัจจัยเสี่ยงที่มีต่อการส่งออกมันเส้นจะมีรอบด้าน ทั้งค่าเงินบาทที่ผันผวน คู่ค้าชะลอการซื้อ ผลผลิตข้าวโพดจีเอ็มโอในจีนทะลัก รวมทั้งกรณีล่าสุดที่จีนผุดโรงงานเอทานอลจากถ่านหิน ซึ่งจะทดแทนมันเส้นที่ใช้ผลิตเอทานอล แถมยังมีราคาถูกกว่า 3-4 หยวน คาดจะทำให้ลดการใช้มันเส้นลงประมาณ 2 ล้านตัน ส่งผลกระทบไปถึงแป้งมัน และอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยทั้งระบบ ที่มีมูลค่าส่งออกแต่ละปีนับแสนล้านบาท (ปี 2566 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 1.27 แสนล้านบาท สัดส่วน 63% ส่งออกไปจีน)
อย่างไรก็ตาม ผลพวงจากการที่จีนสามารถผลิตเอทานอลจากถ่านหินได้ แม้จะส่งลกระทบต่อแนวโน้มสินค้าเกษตรโดยเฉพาะตลาดมันสำปะหลัง ตลอดจนสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเอทานอลนั้น
แต่ในส่วนของอุตสาหกรรม “ถ่านหิน” กลับมีแนวโน้มจะได้อานิสงส์จากเทคโนโลยีดังกล่าว ทำให้สถานการณ์ถ่านหินที่ซบเซามานาน กลับมาฟื้นตัวกลับขึ้นมาในทันที!
ในส่วนของผู้ประกอบการถ่านหินในประเทศที่มีแนวโน้มจะได้อานิสงส์จากนโยบายผลิตเอทานอลจากถ่านหินในทันที ได้แก่ กลุ่ม “บ้านปู” ที่เป็นผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายถ่านหิน ที่มีเหมืองถ่านหินกระจายอยู่ทั่วโลก ทั้งอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย จีน และมองโกเลีย โดยเหมืองถ่านหินสำคัญในจีน ที่กลุ่มบ้านปูไปลงทุนไว้อย่างที่เมืองเฮ่อปี้ และเกาเหอ ซึ่งแต่เดิมนั้นเน้นการส่งเข้าโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่บ้านปูมีการลงทุนในหลายเมือง อาทิ โรงไฟฟ้าเจิ้งติ้ง โจวผิง และหลวนหนาน โดยมีปริมาณการขายถ่านหินในจีนราว 10 ล้านตันต่อปี จากปริมาณการจำหน่ายถ่านหินโดยรวมของกลุ่มบ้านปูกว่า 40-42 ล้านตันต่อปี
เมื่อจีนประกาศผลสำเร็จของการผลิตเอทานอลจากถ่านหินได้อีกทาง จึงย่อมทำให้เหมืองถ่านหินต่าง ๆ ในจีนพลอยได้รับอานิสงส์จากนโยบายดังกล่าวไปด้วย และเชื่อว่าจะทำให้อุตสาหกรรมถ่านหินในจีนกลับมาคึกคักอย่างแน่นอน ส่งผลต่อผู้ประกอบการเหมืองถ่านหินซึ่งก็รวมทั้งบ้านปูด้วย รวมทั้งในประเทศจีน ซึ่งมีการลงทุนอยู่ทั้งในและต่างประเทศ กลับจะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมถ่านหินและเอทานอลในครั้งนี้
