ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และ นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีเทศบาลนครแหลมฉบัง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การอนุญาต หรือรับแจ้ง รวมถึงการบังคับการตามกฎหมายว่าด้วยการขุดดินและถมดิน กฎหมายว่าด้วย การควบคุมอาคาร กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข และกฎหมายว่าด้วยโรงงาน และเรื่อง การส่งเสริมและสนับสนุน การขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยมี นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ สายงานเขตส่งเสริมเศรษฐกิจ พิเศษ อีอีซี และนายสันติ ศิริตันหยง รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากสองหน่วยงาน ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี ณ ห้องประชุมเมืองใหม่ 2 อาคารสํานักงานเทศบาลนครแหลมฉบัง
ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ อีอีซี กล่าวว่า การลงนามฯ MOU ระหว่าง อีอีซี และเทศบาลนครแหลมฉบัง ครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นแนวทางความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อโครงการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะอํานวยความสะดวกให้ได้รับบริการจากภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (EEC One Stop Service) และจะช่วยลดขั้นตอนในการประกอบธุรกิจให้นักลงทุน หรือผู้ที่ต้องการขอใบอนุมัติ ใบอนุญาต ได้รับบริการสะดวกรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยอีอีซีจะเป็นผู้ให้บริการทั้งในส่วนการรับคําขอรับใบอนุญาต ใบรับแจ้งตามกฎหมายว่าด้วยการขุดดินและถมดิน กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข และกฎหมายว่าด้วยโรงงาน และเทศบาลนครแหลมฉบังจะร่วมสนับสนุนในกระบวนการออกใบอนุญาต ใบรับแจ้ง และใบรับรองตามกฎหมายดังกล่าว ถือเป็นการบูรณาการการปฏิบัติงาน และแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ทั้งสองหน่วยงาน อันเป็นการส่งเสริมการลดขั้นตอนการประกอบธุรกิจให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การลงนาม MOU ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ในพื้นที่ อีอีซี ทั้ง 2 หน่วยงาน จะร่วมกันสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมดิจิทัล หรือระบบบริการเมืองอัจฉริยะ รวมทั้งจะสนับสนุนบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ทั้งด้านพัฒนาข้อมูล และพัฒนาระบบให้บริการเมือง ที่เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมบริการดิจิทัล เพื่อการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของเทศบาลนครแหลมฉบัง
นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีเทศบาลนครแหลมฉบัง กล่าวเสริมว่า การลงนามความร่วมมือ MOU ทั้ง 2 ฉบับ ในวันนี้ นับเป็นแนวทางการดําเนินการร่วมกันในการอนุมัติ การอนุญาตตามขอบเขตกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ มุ่งเน้นการพัฒนาการดําเนินงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานทั้งสอง ลดความสับสน และความซ้ําซ้อนในการปฏิบัติหน้าที่ และจะเป็นการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร หรือ One Stop Service ได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงได้ร่วมกันสนับสนุนขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ที่จะเป็นโอกาสสําคัญเพื่อสร้าง ความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไปถึงการพัฒนาพื้นที่อีอีซี ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของพื้นที่และชุมชน ได้อย่างต่อเนื่อง