กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ไม่ได้เน้นแค่เรื่อง “กาสิโน” แต่หัวใจสำคัญคือเน้นการลงทุนระดับเมกะโปรเจ็คต์ แห่งละ 1-2 แสนล้านบาท เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับเวิลด์คลาส เทียบเคียงกับสิงคโปร์ มาเก๊า ฮ่องกง และลาสเวกัส
…
ทำเอาจุกไปตามๆ กัน สำหรับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้ากับพญาอินทรี เมื่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศใช้มาตรการภาษีทางการค้าฉบับใหม่ล่าสุด โดยเฉพาะประเทศไทยเจอไป 37% ขณะที่เสือตัวใหม่มาแรงในภูมิภาคนี้ อย่างเวียดนามก็โดนภาษีไป 46%
ตอนนี้นอกจากเรื่องกำแพงภาษีของสหรัฐฯ คงไม่มีเรื่องไหนฮอตเท่าร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผลักดันเข้าสู่สภาฯเรียบร้อยแล้ว
ตามไทมไลน์ คือ ร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ผ่านวาระแรกของที่ประชุมสภาฯ (ในชั้นรับหลักการ) ก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ นี้ (10 เม.ย.68)
ส่วนวาระที่ 2 ในชั้นของกรรมาธิการ แปรญัตติเป็นรายมาตรา จะใช้เวลาประมาณ 120 วัน ไปสู่วาระที่ 3 เป็นการโหวตของ สส. ว่าจะให้ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่าน หรือไม่ผ่าน อีกประมาณ 50 วัน ก่อนไปถึงการพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นลำดับต่อไป
สรุปว่าร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ถ้าจะผ่านความเห็นชอบทั้ง สส. และ สว. คงอยู่ในช่วงเวลาประมาณปลายปี 68 นั่นแหล่ะ
กฎหมายตัวนี้ ไม่ได้เน้นแค่เรื่อง “กาสิโน” แต่หัวใจสำคัญคือเน้นการลงทุนระดับเมกะโปรเจ็คต์ แห่งละ 1-2 แสนล้านบาท เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับเวิลด์คลาส เทียบเคียงกับสิงคโปร์ มาเก๊า ฮ่องกง และลาสเวกัส
ดังนั้น เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จึงไม่ใช่ภาพจำ! แค่บ่อนเตาปูน บ่อนประตูน้ำ หรือบ่อนตามแนวตะเข็บชายแดน แต่ภายในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งต้องใช้พื้นที่ไม่ต่ำกว่า 200-300 ไร่ ภายในโครงการจะมีทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้า โรงละคร หอประชุม เวทีคอนเสิร์ตระดับโลก สวนสนุก ลานแสดงสินค้า ลานกีฬา ร้านอาหาร และกาสิโน (ไม่เกิน 10% ของพื้นที่)
เมื่อเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ต้องประกอบไปด้วยสิ่งเหล่านี้ ด้วยเม็ดลงทุนที่สูง ดังนั้นในระยะแรกแค่ 3 ใบอนุญาต ใน 3 ทำเล (ภูเก็ต กรุงเทพฯ ชลบุรี) ก็เลิศหรูแล้ว
สำหรับคนไทยที่จะเข้ากาสิโน จะมีเงื่อนไขในเรื่อง 1. อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี 2. ฐานะทางการเงิน หรือมีเงินฝากในบัญชีธนาคารเท่าไหร่ในช่วงเวลา 3-6 เดือน ซึ่งเบื้องต้นกำหนดไว้ที่ 50 ล้านบาท (ตัวเลขนี้อาจจะปรับลดลงมา) และ 3. ต้องจ่ายค่าเข้ากาสิโน ครั้งละ 5,000 บาท (คนในสิงคโปร์ต้องจ่ายค่าเข้ากาสิโนครั้งละ 100 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 2,500 บาท)
ร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมการลงทุนเมกะโปรเจ็คต์ และกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้ “จีดีพี” ของประเทศไทยปรับตัวสูงขึ้น
พรรคประชาชน (พรรคก้าวไกล) ในฐานะแกนนำฝ่ายค้าน เคยหาเสียงช่วงก่อนเลือกตั้งในเดือน พ.ค. 66 ไว้ว่าจะทำ “กาสิโนถูกกฎหมาย รัฐกำกับดูแล”
โดยมีข้อเสนอว่า จำกัดอายุผู้เล่นไม่ต่ำกว่า 20 ปี , จำกัดฐานะของผู้เล่น โดยกำหนดรายได้ขั้นต่ำของผู้ที่จะมีสิทธิเล่นได้ ยึดตามรายได้ที่แจ้งต่อสรรพากรในปีภาษีก่อนหน้า , จำกัดจำนวนคาสิโน โดยถ้าจังหวัดไหนจะมีคาสิโนได้ ต้องออกเป็น พ.ร.ฎ. กำหนดพื้นที่และจำนวนคาสิโนที่จะออกใบอนุญาตได้, มีคณะกรรมการการพนันและขันต่อเป็นผู้ออกใบอนุญาต
รวมทั้งกำหนดประเภทของการพนันและขันต่อที่จะมีในคาสิโนได้
พรรคประชาชน (พรรคก้าวไกล) คิดเล็กๆ จะทำแค่ “กาสิโน” แต่เมื่อเจอคิดใหญ่ๆ ระดับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็ต้องคอยดูลีลา ท่าทาง สำนวนโวหารของพวกเขาในสภาฯ ว่า จะคัดค้านกันแบบหัวชนฝา หรือเปล่า?
เสือออนไลน์
