ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ รายงานว่า นายบรรยง พงษ์พานิช อดีตคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือ ซูเปอร์บอร์ด และประธาน บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) โพสต์เฟสบุ๊ก Banyong Pongpanich ในหัวข้อ ”เวเนซูเอลลา..ประเทศที่ยับเยิน!"
โดยระบุว่า...มาถึงตอนนี้ ค่อนข้างชัดเจนนะครับว่า “Venezuela ประเทศที่มีทรัพยากรปิโตรเลียมมากที่สุดในโลก” ประเทศที่เคยร่ำรวยที่สุดในอเมริกาใต้เมื่อสามสิบปีก่อน ประเทศที่เคย “เป็นต้นแบบขวัญใจของกลุ่มทวงคืนพลังงานประเทศไทย” (แต่มาตอนนี้ท่านคงแกล้งลืมไปแล้วว่าเคยเทิดทูนเหลือเกิน) ได้กลายเป็นประเทศที่ล้มเหลวโดยสมบูรณ์ (Totally failed State) ไปเรียบร้อยแล้ว ทุกสิ่งพังทลาย ประชาชนเดือดร้อนยากเข็ญแสนสาหัสกันถ้วนหน้า
ถามว่าอะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เป็นไปได้ถึงอย่างนั้น ผมขอยกให้สี่ปัจจัยหลัก คือ
1.ชาตินิยม
2.สังคมนิยม
3.ประชานิยม
และ 4.ผู้นำบัดซบกับแผนยุทธศาสตร์ชาติไร้สติของเขา
ขอไล่คร่าวๆ ทีละเรื่องนะครับ …ผู้นำเวเนใช้เรื่องชาตินิยมเป็นตัวนำ ทำการยึดกิจการจากต่างชาติและเอกชน มาให้รัฐทำเอง โดยเฉพาะกิจการพลังงาน จนประสิทธิภาพเสื่อมถอย จากเคยผลิตปิโตรเลียมได้วันละหกล้านบาร์เรล หดลดเหลือไม่ถึงสองล้านภายใต้รัฐวิสาหกิจ PDVSA (ลองหลับตานึกถึงประสิทธิภาพ รฟท. หรือ ขสมก. ดูสิครับ จะเข้าใจได้ไม่ยาก) ทุกๆ อุตสาหกรรมโดนบริหารผิดพลาดภายใต้รัฐวิสาหกิจ จนผลผลิตมีแต่ลดหดตัว รายได้ประชาชาติลดลงต่อเนื่อง
แล้วก็ถึงปัจจัยที่สอง คือความเป็นสังคมนิยม พอยึดกิจการมาแล้วก็ส่งพรรคพวกเข้าบริหาร ทุกอย่างเป็น Centrally-Planned ทำลายระบบตลาดและทุนนิยมลง ไม่มีแรงจูงใจและการแข่งขันที่จะสร้างนวัตกรรมใดๆ และเพื่อคะแนนนิยม(ซึ่ง Chavez ก็ชนะเลือกตั้งถล่มทลายมาทุกทีจนตายไป) ก็ใช้วิธีแจกแหลก ประชานิยมสุดขั้ว โดยเฉพาะด้านพลังงาน ชาวเวเนใช้น้ำมันสุดถูกเกือบได้ฟรี (อันนี้แหละที่พวกทวงคืนฯเชิดชูนัก) เอาทรัพยากรไปถลุงกับประชานิยมหมด ไม่มีการลงทุน ไม่มีการเพิ่มประสิทธิภาพใดๆ
ทีนี้ก็มาถึงปัจจัยสุดท้าย คือ ”การมีผู้นำบัดซบ กับแผนยุทธศาสตร์ชาติของเขา” Hugo Chavez คนที่เป็นผู้นำ เป็นประธานาธิบดีอยู่ 11 ปี ระหว่าง 2002-2013 จนตายคาเก้าอี้ (แล้วก็ส่งต่อให้ Maduro ทายาทสายพันธุ์เดียวกัน) นั้นเป็นคนที่ถูกก่นด่าสาปแช่งมากที่สุดในความพินาศของประเทศ
ความจริงแล้ว Chavez เป็นคนฉลาดที่รักชาติ รักประชาชนมาก เพราะเป็นทหาร จบนายร้อยเวเน แล้วก็เช่นเดียวกับทหารที่รักชาติ อยากช่วยชาติอีกหลายคน ที่คิดจะปฏิวัติเพื่อมารับใช้ชาติ แต่ความพยายามไม่สำเร็จ (1992) ต้องติดคุกไปสองปี พอพ้นคุกก็ตั้งพรรค ชูนโยบายชาตินิยม สังคมนิยม ประชานิยมจนชนะเลือกตั้งปี 2002 ได้เป็นผู้นำทั้งๆ ที่ไม่ได้ออกแบบรัฐธรรมนูญเอาเปรียบใครแล้วก็เป็นจนตาย (แต่ก็เสพติดอำนาจแก้ รธน. เพื่อให้เป็นได้ตลอดชีวิต)
ด้วยความหวังดี รักชาติรักประชาชนสุดชีวิต ในปี 2003 Chavez ก็ได้ประกาศแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะยาว BOLIVARIAN mission ซึ่งมี 30 ด้านขึ้นมา (มากกว่าบางประเทศที่มีแค่ 6+11 ด้าน) …และก็ไอ้ Bolivarian Mission นี่แหละครับ ที่ถึงจะเจตนาดีแค่ไหน ถึงจะเขียนด้วยถ้อยคำสุดหรูขนาดไหน แต่หลักการมันผิดฝาผิดตัวไปหมด เพราะหวังจะให้ทุกอย่างรวมศูนย์โดยเน้น ”ความมั่นคง” (แห่งอำนาจตัว) จึงให้รัฐนำในทุกเรื่อง ทำลายระบบตลาด ให้ข้าราชการและพรรคพวกเป็นผู้นำในกระบวนการ เลยได้ของแถมมาอีกหนึ่ง ”นิยม” คือพรรคพวกนิยม (Cronyism) และก็ไม่ต้องรอจนถึงยี่สิบปีครับ เพียงแค่สิบสี่ปีของการใช้แผนยุทธศาสตร์ชาติ ประเทศก็พังพินาศ ฉิบหายย่อยยับได้ถึงเพียงนี้
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้…เป็นการเล่าถึงวิบากกรรมของชาวเวเนซูเอลล่าเพื่อนร่วมโลก ตามที่ผมรู้และเข้าใจนะครับ ไม่ได้คิดจะเปรียบเทียบกับใครประเทศไหนทั้งนั้น ก็แค่เขียนเล่นแก้เบื่อเท่านั้น
ปล. จริงๆแล้วผมกำลังดีใจนะครับ ที่หลังเลือกตั้ง ได้ยินคำว่าแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศน้อยมาก หวังว่าท่านจะมัวยุ่งๆ บริหารเสียงปริ่มน้ำบริหารการแบ่งเค้ก กับไปออกทีวีรับบริจาคแข่งกับคุณบิณฑ์อยู่ จนลืมไปแล้ว …แต่มันดันมีอยู่ในรัฐธรรมนูญนี่ครับ ถึงจะหวังว่าท่านจะแกล้งลืมเหมือนเรื่องอื่นๆ ใน รธน. แต่มันก็อันตรายเกินไป ใครที่คิดจะแก้รัฐธรรมนูญ อย่าลืมแก้เอาเรื่องยุทธศาสตร์เอาเรื่องปฏิรูปประเทศออกไปด้วยนะครับ เห็นชาวเวเนแล้วมันเสียวครับ เพราะวิบากกรมทั้งหมดมันเกิดจากความหลงทาง หลงผิด ของผู้นำที่รักชาติรักประชาชนเลยครับ