“ตลาดหุ้นคลายกังวล มีแนวโน้มเดินหน้าบวก แต่ยังต้องจับตา สถานการณ์อิหร่าน ขณะที่การลงนามข้อตกลงการค้า ยังเป็นหนุนตลาด ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวลง แนะกลยุทธ์เน้น หุ้นที่เคลื่อนไหวตามตลาด และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการทำข้อตกลงการค้า เช่น GULF, CPALL, LH, GLOBAL, WHA, HANA”
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ รายงานว่า ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ (KTBST SEC) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (13-17 ม.ค.63) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางบวก หลังปัจจัยลบต่างๆลดน้อยลง ประเด็นสำคัญที่ตลาดติดตามอยู่ คือสถานการณ์อิหร่าน, การลงนามข้อตกลงการค้า และบรรยากาศของการเมืองไทยหลังผ่านร่างงบประมาณ วาระ 3 มาแล้ว โดยความตึงเครียมเรื่องของอิหร่านกับสหรัฐฯ ไม่น่าจะมีการตอบโต้ที่มีนัย และนักลงทุนจะเริ่มให้น้ำหนักต่อนี้น้อยลง จนกว่าจะมีการตอบโต้จากอิหร่านเกิดขึ้นอีกครั้ง ทำให้นักลงทุนลดการถือสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลลบต่อราคาน้ำมันดิบ, ทองคำและพันธบัตร แต่จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นจากความกังวลที่ลดลง
ขณะที่การลงนามข้อตกลงการค้าของสหรัฐฯ กับจีนในวันที่ 15 ม.ค. จะเป็นปัจจัยชี้นำตลาดหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์นี้ แม้ตลาดดูจะเป็นบวกที่สองฝ่ายหันมาทำสัญญา และรายละเอียดของข้อตกลง รวมทั้งการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุว่า ข้อตกลงการค้าเฟสที่ 2 จะมีการทำหลังผ่านการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. ไปแล้ว ซึ่ง KTBST SEC คาดว่าจะทำให้ตลาดหุ้นบวกได้ไม่มากนักหลังการลงนามครั้งนี้ผ่านไป
ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศ ได้ผลบวกเล็กน้อย หลังงบประมาณปี 2563 ผ่านมติสภาผู้แทนฯ มาแล้วด้วยเสียง 253 เสียง เพิ่มขึ้น 2 เสียงจากการลงมติในวาระที่ 1 ของงบประมาณฉบับนี้ โดยเสียงที่รัฐบาลได้เพิ่มขึ้นคือ 1 เสียง ซึ่งไม่ได้มากนัก ทำให้ตลาดต้องไปจับตาดูการตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ ว่าผลจะออกมาอย่างไร เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงเสียงฝั่งรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่กิจกรรมที่หวังผลการเมืองช่วงวันหยุด ไม่ถือว่ามีผลต่อตลาดหุ้น
ประเด็นอื่นๆที่สำคัญในสัปดาห์นี้ คือ การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจและตัวเลขการส่งออกของจีนและนโยบายการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LVT)
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ KTBST SEC ประเมินกรอบดัชนที่เคลื่อนไหวที่ 1,570-1,610 จุด มองว่าตลาดจะค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าสู่ 1,600 จุด ปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลาดมีการรับรู้ไประดับหนึ่งแล้วจึงไม่มีอะไรส่งผลต่อตลาดนัก มีเพียงประเด็นเรื่องอิหร่านที่จะยังไม่จบลง ลงทุนช่วงนี้ ยังแนะให้เพิ่มน้ำหนักหุ้นที่เคลื่อนไหวตามตลาด ได้แก่ หุ้นกลุ่มใหญ่ บางกลุ่ม เช่น โรงไฟฟ้า รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการทำข้อตกลงการค้า รวมไปถึงหุ้นที่มีการเก็งงบการเงินและการจ่ายปันผลในรอบนี้ โดยหุ้นที่แนะนำสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย GULF, CPALL, LH, GLOBAL, WHA, HANA ส่วน พอร์ต KTBST SET50 จะประกอบด้วยหุ้น CPALL และ RATCH