รฟม.เอาแน่รื้อเกณฑ์ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม 1.4 แสนล้าน อ้างโครงการใหญ่ที่ต้องคำนึงผลประโยชน์ของรัฐเป็นหลักไม่จำเป็นต้องยึดผลประโยชน์การเงินสูงสุด วงในแฉทำเอกสารปรับเกณฑ์เอาซองเทคนิค+ราคามารอไว้แล้ว ด้าน BTS รู้แกวร่อนหนังสือค้านทันควัน ชี้ผิดหลักประมูลหลังจากมีกระแสข่าวสะพัดมาโดยตลอดถึงโครงการประมูลจัดหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม(บางขุนนนท์-มีนบุรี) ระยะทาง 35.9 กม. มูลค่ากว่า 1.4 แสนล้านบาท โดยมีความพยายามจะปรับเปลี่ยนเกณฑ์การประมูลจากการพิจารณาข้อเสนอบริษัทเอกชนที่เสนอผลตอบแทนแก่รัฐสูงสุดเป็นเกณฑ์ มาเป็นการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคและการเงินควบคู่กันไป โดย รฟม. จะทำการประเมินข้อเสนอด้านเทคนิค ราคา และข้อเสนออื่น ๆ ประกอบและพิจารณาข้อเสนอที่ยังประโยชน์ต่อ รฟม. สูงสุดเป็นเกณฑ์ชี้ขาด โดยอ้างว่าเป็นไปตามข้อเรียกร้องของบริษัทรับเหมาเอกชนบางรายที่เห็นว่า โครงการนี้ เป็นโครงการขนาดใหญ่แตกต่างไปจากโครงการอื่น ๆ เพราะมีทั้งการลงทุนด้านงานโยธา การจัดหาระบบรถไฟฟ้า และรับสัมปทานบริหารโครงการ 30 ปี จึงเห็นว่า รฟม.ควรปรับเกณฑ์การคัดเลือกใหม่ ที่ยังประโยชน์ต่อหน่วยงานมากกว่าคำนึงถึงผลประโยชน์ทางการเงินอย่างเดียว ล่าสุด มีความชัดเจนแล้วว่า ฝ่ายบริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ขานรับแนวทางการปรับเปลี่ยนเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว หลังจากนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายหลังคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (คณะกรรมการตามมาตรา 39) เรียกประชุมคณะกรรมการเป็นการด่วนเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่ากรรมการพิจารณาคัดเลือกเห็นพ้องให้มีการปรับปรุงเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการนี้ ในเวลาเดียวกันก็มีเอกสารภายใน รฟม. หลุดออกมายังสื่อว่า เกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกที่จะมีขึ้นนั้น จะพิจารณาซองข้อเสนอทางเทคนิค และราคาประกอบกัน โดยข้อเสนอด้านเทคนิคนั้นจะมีการประเมินในเรื่องของประสบการณ์ ความพร้อมองค์กรและความสามารถของบุคลากร เทคนิค วิธีการแผนงานและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกีบการก่อสร้างงานโยธา และงานระบบรถไฟฟ้า ประกอบกับข้อเสนอทางการเงินที่จะพิจารณาทั้งเรื่องของความน่าเชื่อถือของข้อเสนอทางการเงิน และผลประโยชน์ที่รัฐจะได้รับซึ่งจะมีการคำนวณจากค่างานโยธาร่วมกับส่วนแบ่งรายได้จากการเดินรถ โดย รฟม.จะพิจารณาเอกชขนที่มีข้อเสนอให้รัฐดีที่สุดหรือขอสนับสนุนจากรัฐน้อยที่สุดเป็นเกณฑ์ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือลงวันที่ 20 ส.ค. ถึงผู้ว่าการ รฟม.โดยระบุถึงกรณีที่ผู้ซื้อเอกสารข้อเสนอการร่วมลงทุนโครงกรรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางชุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) รายหนึ่งทำหนังสือขอให้ รฟม. พิจารณาปรับเปลี่ยนเกณฑ์การประมูลคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการนี้ โดยระบุว่า หากมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนวิธีการประเมินข้อเสนอดังกล่าวจริง จะถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาระสำคัญ และไม่เคยมีการดำเนินการลักษณะนี้กับโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่เป็นโครการร่วมลทุนระหว่างรัฐและเอกชนมาก่อนนอกจากนั้น บริษัทฯ เห็นว่า ผู้ที่จะเข้ายื่นข้อสนอในโครงการนี้ได้ ต้องผ่านเกณฑ์ด้านต่างๆ ของ รฟม. ซึ่งต้องเป็นบริษัทหรือกลุ่มบริษัทที่มีศักยภาพและความเป็นไปได้ในการดำเนินงานสูง ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่บริษัทที่ผ่านเกณฑ์จะไม่ทำตามข้อเสนอที่ได้ยื่นต่อ รฟม. อีกทั้งบริษัทที่ยื่นข้อเสนอยังต้องมีภาระรับผิดชอบค้ำประกันต่อ รฟม.ด้วย และที่สำคัญการพิจารณาปรับเปลี่ยนเกณฑ์การคัดเลือกเอกนเข้าร่วมลงทุนดังกล่าว จะเป็นช่องทางที่ส่อไปในทางไม่สุจริต ไม่เป็นธรรม หรืออาจเอื้อประโยชต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใดได้ บริษัทฯ จึงเห็นว่าเป็นการไม่สมควรถ้าหากจะปรับแก้วิธีการประเมินข้อเสนอดังกล่าว