นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงข่าวการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือนกันยายน 2563 และไตรมาส 3/2563 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ผลการจดทะเบียนธุรกิจ
ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนกันยายน2563
- จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ ในเดือนกันยายน 2563 จำนวน 5,636 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 12,782 ล้านบาท
- ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 592 ราย คิดเป็น 11% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 237 ราย คิดเป็น 4% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจบริการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 185 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ
- ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 4,176 ราย คิดเป็น 74.10% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,375 ราย คิดเป็น 24.40% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 78 ราย คิดเป็น 1.38% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 7 ราย คิดเป็น 0.12% ตามลำดับ
ธุรกิจจัดตั้งใหม่ไตรมาส 3/2563
- จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ ไตรมาส 3/2563 (ก.ค.-ก.ย.) จำนวน 16,841 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 (เม.ย.-มิ.ย.) จำนวน 13,922 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 2,919 ราย คิดเป็น 21% และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2562 จำนวน 19,386 ราย ลดลงจำนวน 2,545 ราย คิดเป็น 13%
- ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 1,716 ราย คิดเป็น 10% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 767 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร จำนวน 480 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ
- มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ในไตรมาส 1/2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 43,812 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส2/2563 จำนวน 33,441 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 10,371 ล้านบาท คิดเป็น 31% และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2562 จำนวน 68,353 ล้านบาท ลดลงจำนวน 24,541 ล้านบาท คิดเป็น 36%
- ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 12,426 ราย คิดเป็น 73.79% รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 4,172 ราย คิดเป็น 24.77% รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 211 ราย คิดเป็น 1.25% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 32 ราย คิดเป็น 0.19%
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนกันยายน 2563
- จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ประจำเดือนกันยายน 2563 มีจำนวน 1,568 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 8,480 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
- ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 123 ราย คิดเป็น 8% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 103 ราย คิดเป็น 7% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 46 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ
- ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1,087 ราย คิดเป็น 69.33% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 395 ราย คิดเป็น 25.19% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 75 ราย คิดเป็น 4.78% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 11 ราย คิดเป็น 0.70% ตามลำดับ
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการไตรมาส 3/2563
- จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 4,166 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 จำนวน 3,058 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 1,108 ราย คิดเป็น 36% และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2562 จำนวน 5,287 ราย ลดลงจำนวน 1,121 ราย คิดเป็น 21% ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ปกติที่จะมีแนวโน้มของการจดทะเบียนเลิกประกอบธุรกิจ
- ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 328 ราย คิดเป็น 8% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 246 ราย คิดเป็น 6% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 122 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ
- มูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ในไตรมาส 3/2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 21,556 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 จำนวน 11,892 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 9,664 ล้านบาท คิดเป็น 81% และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2562 จำนวน 52,573 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 31,017 ล้านบาท คิดเป็น 59%
- ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 2,855 ราย คิดเป็น 68.53% รองลงมาคือ ช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 1,078 ราย คิดเป็น 25.88% ลำดับ ถัดไปคือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 207 ราย คิดเป็น 4.97% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 26 ราย คิดเป็น 0.62%
ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนกันยายน 2563
- ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 ก.ย. 63) ธุรกิจที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน774,012 ราย มูลค่าทุน 18.62 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 187,912 ราย คิดเป็น 24.28% บริษัทจำกัด จำนวน 584,818 ราย คิดเป็น 75.55% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,282 ราย คิดเป็น 0.17% ตามลำดับ
- ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 457,268 ราย คิดเป็น 59.08% รวมมูลค่าทุน 0.40 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.15% รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 228,491 ราย คิดเป็น 29.52% รวมมูลค่าทุน 0.76 ล้านล้านบาท คิดเป็น 4.08% ช่วงถัดไปคือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 72,290 ราย คิดเป็น 9.34% รวมมูลค่าทุน 1.97 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10.58% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 15,963 ราย คิดเป็น 2.06% รวมมูลค่าทุน 15.49 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.19% ตามลำดับ
การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว เดือนกันยายน 2563
- เดือนกันยายน 2563 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น จำนวน 51 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 22 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 29 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 15,502 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 6,413 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 71 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
- นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 14 ราย เงินลงทุน 1,372 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ จำนวน 4 ราย เงินลงทุน 712 ล้านบาท และฮ่องกง จำนวน 4 ราย เงินลงทุน 260 ล้านบาท