เผยแก้ลำหวยแพงกองสลากเหลวไม่เป็นท่า กลายเป็นรายการ "เตะหมูเข้าปากหมา" เสียรูปพ่อค้ารายใหญ่ รายย่อยขายใบละ 100 กันโจ๋งครึ่มแม้คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือกองสลากฯ จะออกมาตรการแก้ลำหวยแพง ด้วยการขออนุมัติคณะรัฐมนตรีจัดพิมพ์สลากฯ แบบคละเลข เพื่อป้องกันการรวมหวยชุด ราคา เอากับประชาชน โดยเริ่มดีเดย์ตัดพิมพ์สลากฯ แบบใหม่ ตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา แต่กลับปรากฏว่า มาตรการดังกล่าวกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า!โดยสำนักข่าวเนตรทิพย์ออนไลน์ ได้สำรวจแผงค้าลอตเตอรี่ในตลาดถนอมมิตร ตลาดยิ่งเจริญ และตลาดอื่นๆ อีกหลายแห่ง พบว่า แม้มาตรการใหม่ดังกล่าว จะสามารถสกัดการรวมหวยชุดได้ผล โดยแต่ละแผงนั้นมีหวยชุดเพียง 1 ถึง 2 คู่เท่านั้น แต่กลับปรากฏว่า ผู้ค้าหวยรายย่อยต่างๆ ปรับขายหวยใบเดียวในราคาใบละ 100 บาท จากเดิมที่เคยขายเพียงใบละ 80 บาทเท่านั้น โดยต่างก็อ้างว่า ต้องถูกบังคับรับมาทั้งชุด ทำให้ต้นทุนแพงกว่าเดิม ซึ่งประชาชนที่นิยมเสี่ยงโชคต่างสายหน้า แม้จะแย้งว่า แต่เดิมไว้ใบเดียวนั้นต้องขาย 80 บาทไม่ใช่หรือ แต่ผู้ค้าก็อ้างว่า หวยใหม่นี้แพงมาต้นตั้งแต่ต้นทางอยู่แล้ว จึงทำให้มาตรการสกัดและแก้ลำหวยแพงของสำนักงานสลากกินแบ่งฯ เป็นหลักการเตะหมูเข้าปากหมา กลับทำให้ผู้ค้าขายสลากฯ แพงขึ้นกว่าเดิม แม้จะเป็นการซื้อใบเดียวก็ขายใบละ 100 บาท และหากเป็นหวยชุดยังขายแพงกว่าเดิมเป็นคู่ละ 220-240 บาทเข้าไปอีก แพงกว่าเดิมที่เคยขายคู่ละ 200 และขายเลขคละใบละ 80 บาทผู้ซื้อสลากรายหนึ่งบอกกับเราว่า หากเป็นดังนี้กลับไปใช้ระบบเดิมยังดีกว่า เพราะอย่างน้อยก็ยังมีหวย ใบเดียวราคา 80 บาท ให้เลือกซื้อได้บ้าง ส่วนหวยชุดนั้นราคาต้องแพงขึ้นอยู่แล้วตามจำนวนหวยชุดที่รวบรวมได้ ซึ่งมีราคาตั้งแต่คู่ละ 200 ไปจนถึงหลัก 10,000 บาท แต่หลังจากกองสลากฯ ดีเดย์จัดพิมพ์สลากแบบค่าเลขออกมา กลับปรากฏว่า ผู้ค้ายังคงฉวยโอกาสขายหวยในราคาแพง โดยไม่สนใจว่าจะเลือกเลขไหน