นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีมีผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจ กรณีประเด็นการล็อกสเปกงานของกรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) โดยเฉพาะล็อกสเปกระยะทางขนส่งแอสฟัลท์ว่า เรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องด้านเทคนิค ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า กระทรวงคมนาคม มีการทำงานเป็นระบบ และชัดเจน ภายใต้นโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มอบหมายให้ข้าราชการในหน่วยงานราชการ ภายใต้สังกัดกระทรวงฯ รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จะต้องดำเนินการถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาล และใช้ภาษีของประชาชนให้คุ้มค่าที่สุด โดยในเรื่องนี้นั้น กระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญด้านคุณภาพในการก่อสร้างของ ทล. และ ทช. อย่างมีมาตรฐานและเป็นระบบด้านนายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดี ทช. กล่าวว่า ในส่วนของ ทช. ได้ใช้มาตรฐานการดำเนินการก่อสร้างแอสฟัลท์ติกในไทย ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของ ASTM และมาตรฐานของ AASHTO ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล และมีการกำหนดโดยกรมโยธาธิการมาตั้งแต่ปี 2528 ประกอบกับมาตรฐานของ ทล. ที่กำหนดไว้ตั้งแต่ปี 2532 และดำเนินการมาตลอด 30 กว่าปี แต่ในช่วงที่ผ่านมา ทั้ง ทล. และ ทช. ได้ประสบปัญหาคุณภาพของงานที่ไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากได้ดำเนินการควบคุมอุณหภูมิให้ร้อน (Overheat) ในการก่อสร้าง แต่วัสดุไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด ทำให้อุณหภูมิในการก่อสร้างต่ำกว่าที่กำหนด เกิดรูพรุน และเกิดการแตกแยกของส่วนผสมขณะที่นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดี ทล. กล่าวว่า จากปัญหาที่ ทล. และ ทช. ได้ประสบดังกล่าวนั้น จึงได้บูรณาการ และทำงานร่วมกัน พร้อมทั้งจัดประชุมด้านเทคนิคมาแล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา เพื่อให้งานก่อสร้าง งานลาดยาง และงานซ่อมบำรุงมีคุณภาพดีขี้น ทั้งนี้ ภายหลังจากการประชุม ได้แจ้งไปยังผู้ดำเนินการก่อสร้างให้ดำเนินการตามมาตรฐานที่กำหนด และเป็นรูปธรรมในโครงการต่าง ๆ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ทล. และ ทช. ภายใต้กระทรวงคมนาคม ดำเนินการโปร่งใส และไม่ได้มีการล็อกสเปกแต่อย่างใด เนื่องจากมีมาตรฐานกำหนดไว้อย่างชัดเจน