น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคมดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กมธ.ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติที่ก่อนหน้ามีการจัดเก็บค่าโทร ว่า เลขหมายฉุกเฉินที่สำคัญต่อชีวิตจะต้องทำให้ถูกใช้ได้กับโทรศัพท์ทุกชนิด และจะต้องไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ไม่ใช่ว่าเบอร์มือถือที่ไม่ได้เติมเงิน หรือแม้กระทั่งชาวต่างชาติที่ถือโทรศัพท์เข้ามาในประเทศ ทั้งนี้ในทุกนาทีที่สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือได้เร็วที่สุด หมายความถึงโอกาสที่จะช่วยชีวิตมากขึ้นเท่านั้น ในแนวปฏิบัติทั่วโลกต่างกำหนดเบอร์ฉุกเฉินที่เป็นมาตรฐานจดจำได้ง่าย ไม่ใช่มีเบอร์ฉุกเฉิน 4 หลักจำนวนมาก แต่ควรมีหมายเลขฉุกเฉิน 3 หลักเพียงเบอร์เดียวเท่านั้น และโทรศัพท์ทุกเครื่อง ทุกชนิดในประเทศต้องสามารถโทรหาเบอร์นี้ได้ ไม่มีข้อจำกัดหรือยกเว้นว่ามีเงินหรือไม่ "เหตุผลหลักต้องการให้ทุกคนที่อยู่ในประเทศจำได้ง่าย ๆ เพียงเบอร์เดียวเท่านั้น และสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ในเวลาอันรวดเร็ว"นายสยาม หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธาน กมธ.ดีอีเอส กล่าวว่า ถ้ามีระบบบริหารจัดการเบอร์เดียวที่ดีจะไม่ต้องแบ่งแยกว่าหน่วยงานไหนรับผิดชอบอะไร ในประเทศต่างๆ ได้มีการตกลงเบอร์ฉุกเฉินที่เป็นสากลไว้แล้ว โดยกำหนดหมายเลข 112 ไว้เป็นที่รู้กัน ในยุโรปใครก็ตามสามารถโทร 112 ได้หมด แต่ด้วยความเป็น Thailand Only เราจึงกำหนดหมายเลขฉุกเฉินแห่งชาติตามมติ ครม. ตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินเหลือ 191 แค่เบอร์เดียว ตั้งเป้าบูรณาการแจ้งเหตุ เพื่อช่วยเหลือทันท่วงที ป้องกันความสับสน และประชาชนโทรเมื่อไหร่ก็ติด โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับผิดชอบในการดำเนินโครงการฯ และให้จัดตั้งโดยเร็ว ซึ่งในความเป็นจริงเรื่องสุขภาพและเรื่องความเป็นความตายต้องมาก่อน และเรื่องฉุกเฉินโดยส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาด้านสุขภาพดังนั้น โดยตรรกะที่ควรจะเป็น Call Center ของหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ด่านแรกที่รับเรื่องควรเป็นบุคคลากรที่มีทักษะในเรื่องการรักษาพยาบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเบอร์ฉุกเฉินของประเทศในการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้มีอยู่ด้วยกันร่วม 10 เลขหมาย (ดูภาพประกอบ)