
ปปง.ทำงานแล้ว อายัดทรัพย์บัญชีเงินฝาก-สินทรัพย์ดิจิทัล บ.ดิไอคอน, บอสพอล , บอสกันต์ กับพวก พร้อมเตือน ทรัพย์สินอื่น ห้ามโอน-รับโอน-เปลี่ยนสภาพ ขณะวงในชี้ “เงินทอง ทรัพย์สิน” ยังมีอีกเพียบ!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค.67 สำนักงาน ปปง. ได้เผยแพร่เอกสารแถลงผลการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน กรณีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก โดยระบุว่า..
ด้วยสำนักงาน ปปง. ได้รับรายงานจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค รายบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก ซึ่งมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และจากการตรวจสอบรายงานและข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมในกรณีดังกล่าว มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า อาจมีการโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในกรณีดังกล่าว และกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน เลขาธิการ ปปง. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 48 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ออกคำสั่งที่ ย. 214/ 2567 ให้อายัดทรัพย์สินของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด , นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล , นายณิชพน ทองมี , นางสาวฐิตตญา หงษ์อุปถุมภ์ไชย และ นายกันต์ กันตถาวร ซึ่งเป็นทรัพย์สินประเภทเงินในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ , เงินในบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน , เงินในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และเงินในบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 11 รายการ รวมราคาประเมินทั้งสิ้นประมาณ 125,548,076.99 บาท พร้อมดอกผลไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน

สำนักงาน ปปง. ขอแจ้งเตือนว่า ทรัพย์สินอื่นที่อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินนั้น หากผู้ใดโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าก่อน ขณะหรือหลังการกระทำความผิด มิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลงในความผิดมูลฐาน หรือกระทำด้วยประการใด ๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มาแหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใด ๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือมีการได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สิน โดยรู้ในขณะที่ได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้นว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ย่อมมีความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อนึ่ง แหล่งข่าววงในเครือข่ายที่กำลังฉาวโฉ่ให้สัมภาษณ์รายการ “ถกไม่เถียง” ตอนหนึ่งว่า บอสที่เป็นผู้บริหาร มีการซุกซ่อนทรัพย์สิน เงินทองอีกจำนวนมาก ทั้งในรูปแบบทรัพย์สิน เงินสด และเงินดิจิทัล ซึ่งเกิดความเสียหายจองประชาชนที่หลงกลหรืออาจสมัครใจเข้ามาสู่เครือข่าย น่าจะถึง 600,000 บัญชี ทำให้มีเงินหมุนเวียนนับ 100,000 ล้านบาท

ที่สำคัญมีการเปิดโปงขบวนการเรียกรับผลประโยชน์ ทั้งหน่วยงานรัฐ และมีการเปิดเผยชื่อย่อนักการเมือง ซึ่งฟังแล้ว “ขนหัวลุก”.. อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจจริงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง!
รายละเอียดเพิ่มเติมใน: รายการถกไม่เถียง!
ฟังแล้วขนลุก..เบื้องลึก ดิ ไอคอน!
https://www.youtube.com/live/JnNuxVBzfqw?si=qnRQGx70gq8Q8_99
(ขอบคุณข้อมูลจากรายการ “ถกไม่เถียง” ช่อง7)