คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบให้คงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 35 บาท เพื่อบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน โดยที่ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันติดลบเกินกว่า 1 แสนล้านบาท
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้คงราคาน้ำดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาท เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชนในช่วงเวลานี้ โดยเป็นการตรึงราคาต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังมีความผันผวนค่อนข้างสูง โดยราคาน้ำมันดีเซลเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565 อยู่ที่ 172.77 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากความต้องการมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องจากสหรัฐฯ และการผ่อนคลายมาตรการของจีนที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ในเมืองเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง และกลุ่มโอเปกเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันมากกว่าเดิม
ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน ราคาน้ำมันดีเซลเริ่มปรับตัวลดลงเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 อยู่ที่ 155.45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากจากความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว หลังธนาคารกลางทั่วโลกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อลดความร้อนแรงของอัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 3.4% ในช่วงปลายปี 65 จากปัจจุบันที่ 1.50 - 1.75%
สำหรับน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงหลังจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ปรับเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล ประกอบกับหลายโรงกลั่นเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดีเซล ส่วนน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงเช่นกันหลังปริมาณหลังน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ได้ออกมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนรอบใหม่ โดยในส่วนของราคาน้ำมันดีเซลมีมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลร้อยละ 50 ในส่วนที่ราคาขายสูงกว่า 35 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 3 เดือน (กรกฎาคม - กันยายน 2565)
สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 3 กรกฎาคม 2565 ติดลบ 107,601 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 69,718 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 37,883 ล้านบาท