จากการที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยังไม่สามารถออก Notice to Proceed : NTP ไปยังบริษัท เอเชียเอราวันฯ ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟความเร็วสูง หรือ ไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) เพื่อให้เริ่มต้นโครงการได้ เพราะยังมีการเจรจาประเด็นปลีกย่อยในเรื่องการส่งมอบพื้นที่ และการเคลียร์หน้าเสื่อเรื่องโครงการทับซ้อนที่ยังไม่ลงตัว
รวมทั้ง ยังมีกระแสข่าวว่า ทางกลุ่ม ซีพี. ต้องการเจรจาขอให้รัฐร่นเวลาจ่ายเงินชดเชยค่าก่อสร้างในส่วนของรัฐวงเงินกว่า 117,000 ล้านบาท ออกมาก่อนสัญญาที่กำหนดนั้น จนเป็นเหตุให้ความคืบหน้าในการดำเนินโครงการที่ควรจะเริ่มดีเดย์ตอกเสาเข็มโครงการได้แล้ว ยังคงต้องเลื่อนออกไปเป็นต้นปี 66 เป็นอย่างน้อยนั้น
ผลพวงความล่าช้าในการดำเนินโครงการดังกล่าว ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่ากว่า 2.9 แสนล้านบาท ที่บริษัท อู่ตะเภาอินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA ได้รับสัมปทานดำเนินการ และถือเป็นหนึ่งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลักของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ด้วย
เพราะหากโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไฮสปีดเทรนไม่มีความคืบหน้า หรือต้องเลื่อนการก่อสร้างออกไป โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาที่จะยกระดับเป็น “สนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลัก แห่งที่ 3" เชื่อมสนามบินดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ด้วยรถไฟความเร็วสูง ก็ต้องเลื่อนออกไปด้วย เพราะความสำเร็จหรือล้มเหลวของโครงการสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินตะวันออก ผูกติดอยู่กับโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงไฮสปีดเทรน หากปราศจากซึ่งโครงข่ายรถไฟความเร็วสูง ก็ไม่สามารถจะเดินหน้าโครงการเมืองการบินตะวันออกได้
“แม้ UTA จะส่งแผนแม่บทเมืองการบินและแผนก่อสร้างไปแล้ว แต่ก็ต้องชะลอการดำเนินโครงการออกไปก่อน เพราะจะเดินหน้าก่อสร้างได้ต้องแน่ใจว่า นโยบายของภาครัฐไม่ปรับเปลี่ยน และการก่อสร้างโครงการไฮสปีดเทรนยังคงเป็นไปตามกำหนดเดิม หาไม่แล้วเกิดเดินหน้าลงนามไปเต็มสูบ แต่โครงการรถไฟความเร็วสูงที่จะเชื่อมต่อมายังโครงการเมืองการบินเกิดล้มไป หรือปรับเปลี่ยนไป นักลงทุนที่ลงทุนไปแล้วคงอ่วมแน่ จึงต้องรอความชัดเจนจากภาครัฐ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้รายงานความคืบหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกว่า ยังคงเดินหน้าไปตามแผน โดยปัจจุบันมีการหารือกับ UTA อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้ส่งแผนแม่บทแบบเมืองการบินตะวันออกมาให้แล้ว และเชื่อว่าทุกอย่างจะทันเวลาที่วางไว้