
ประกันสังคม น่าจะจ่ายเงิน 9 พันล้าน ในธุรกรรม skyy9 ไม่ใช่ 7 พันล้าน?
…
ดร.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการ ได้โพสต์ FB ในเพจ Sarinee Achavanuntakul ว่า ประกันสังคมน่าจะจ่ายเงิน 9 พันล้านในธุรกรรม Skyy9 ไม่ใช่ 7 พันล้าน โดยระบุว่า…

วันนี้ลองโหลดงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงิน ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม ประกันสังคม ตั้งกองทรัสต์ไปตั้งบริษัทใหม่ ไปซื้อบริษัทเจ้าของตึก skyy9 (ซับซ้อน 55) มาดูเล่นๆ ก็พบว่า ประกันสังคมน่าจะออกเงินทั้งหมด 9 พันล้านบาท ไม่ใช่ 7 พันล้านบาท ตามที่เป็นข่าวมาหลายสัปดาห์นะคะ
ขอเรียบเรียงแบบนี้สั้นๆ ก่อน (ฉบับยาวไว้หาเวลาเขียนเป็นบทความ ที่จะตั้งคำถามเกี่ยวกับหลักธรรมาภิบาลการลงทุนของ สปส.)
1. บริษัทหลักๆ ที่เกี่ยวข้องมีสองบริษัท คือ บริษัท ไพร์ม ไนน์ เรียลเอสเตท จำกัด เป็นบริษัทเจ้าของเดิมของตึก skyy9 (เดิมชื่อ บริษัท AGRE 101 จำกัด) (ผู้ขาย) กับ บริษัท ไพร์ม เซเว่น จำกัด (ผู้ซื้อ) เป็นบริษัทใหม่ที่ตั้งและถือหุ้น 99.99% โดย กองทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุนไพร์ม แอสเซท ("กองทรัสต์" นี้ ตั้งใหม่โดย สปส. เพื่อทำธุรกรรมนี้โดยเฉพาะ)
2. ณ สิ้นปี 2564 ก่อนเกิดธุรกรรมนี้ บริษัท ไพร์ม ไนน์ เรียลเอสเตท จำกัด มีเงินกู้ระยะยาวราว 4.2 พันล้าน ในจำนวนนี้เป็นหนี้สถาบันการเงิน 2.2 พันล้าน และหนี้กิจการเกี่ยวข้องอีกราว 2 พันล้าน, ขาดทุนสะสม 493 ล้าน เมื่อรวมกับทุนจดทะเบียน 200 ล้าน ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 293 ล้านบาท, รายได้ปี 2564 เท่ากับ 1.9 ล้านบาท (ทั้งหมดนี้บ่งบอกว่าบริษัทเจ๊งอยู่ ตึกยังไม่สร้างกำไร)
3. ในปี 2565 ประกันสังคมอนุมัติตั้ง กองทรัสต์ กองทรัสต์ไปตั้งบริษัท ไพร์ม เซเว่น เข้าซื้อหุ้น 99.99% ในบริษัท ไพร์ม ไนน์ โดยน่าจะออกเงิน 9 พันล้านบาท เพราะ
1) 5 พันล้าน จ่ายค่าตึกให้เจ้าของเดิม -- บันทึกเป็นมูลค่า "เงินลงทุนในบริษัทย่อย" (หลักๆ คือมูลค่าตึกของ ไพร์ม ไนน์)
2) 1.8 พันล้าน เป็นการ refinance เงินกู้ยืมจากกิจการเกี่ยวข้องเดิม (Apollo Asia + Cornerstone Management) มาไว้ที่ตัวเอง (คือ ไพร์ม ไนน์ ตอนนี้เป็นหนี้บริษัทแม่อยู่ 1.8 พันล้าน) และ
3) 2.2 พันล้าน จ่ายคืนเงินกู้ธนาคารให้ ไพร์ม ไนน์ (จากเงินเพิ่มทุนที่อัดฉีดให้ 3.2 พันล้าน -- ไพร์ม ไนน์ มีผลขาดทุนสะสม 1.1 พันล้าน ณ สิ้นปี 65)
4. ทีนี้ งบการเงินของ ไพร์ม เซเว่น บันทึกว่ามี "เงินกู้ยืมจากผู้ถือหุ้น" ซึ่งก็คือกองทรัสต์ สปส. จำนวน 2 พันล้านบาท (ที่เหลือ 7 พันล้าน คือส่วนที่จ่ายเป็นค่าตึกและเงินกู้กิจการเกี่ยวข้อง) แสดงว่า เงินส่วนนี้น่าจะเป็นส่วนที่เอาไปชำระหนี้เจ้าหนี้ธนาคารของ ไพร์ม ไนน์ (ณ สิ้นปี 2565 ไพร์ม ไนน์ ไม่มีหนี้ก้อนนี้แล้ว)
5. ดังนั้น ถ้ากองทรัสต์ขออนุมัตินโยบายการลงทุนในตึกนี้เพียง 7 พันล้าน ก็แปลว่าน่าจะต้องขออนุมัติ "ปล่อยกู้" ให้กับ ไพร์ม เซเว่น บริษัทใหม่ของตัวเองที่วันนี้เป็นเจ้าของ ไพร์ม ไนน์ ต่างหากอีก 2 พันล้าน -- ถ้ามีก้อนนี้จริง ต้องรอติดตามต่อไปว่า เงินกู้ 2 พันล้านส่วนนี้ กองทรัสต์ขออนุมัติใคร ตอนไหน อย่างไรบ้างค่ะ

