
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ACT) เผยพบพิรุธอาคารที่ทำการใหม่ สตง. ตั้งแต่ถูกเชิญเข้าร่วมสังเกตุการณ์หลัง สตง. เลือกผู้รับเหมาไปแล้ว แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้จรวจสอบเงื่อนไข TOR และแบบก่อสร้าง แถมผู้นับเหมาหยุดงานเป็นช่วงๆ
นายมานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT เปิดเผยถึงกรณีอาคารที่ทำการใหม่ของสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สต.) ที่พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ว่าจากการที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ได้ร่วมกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ลงนามใน “โครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact)” เพื่อป้องกันและปราบปรามทุจริตในโครงการก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ พบว่า การก่อสร้างหย่อนประสิทธิภาพเห็นได้จากการก่อสร้างล่าช้าผู้รับเหมาที่หยุดงานเป็นช่วง ๆ ซึ่ง ACT ได้ทักท้วงมาโดยตลอด
อีกทั้งปกติโครงการจะเปิดให้ผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เริ่มเข้าสังเกตการณ์ตั้งแต่เขียนข้อกำหนดเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) เพื่อป้องกันการล็อคสเปก การฮั้วประมูล และการตั้งงบประมาณสูงเกินจริง แต่โครงการนี้ กลับไม่ได้รับอนุมัติจากรัฐให้เข้าโครงการข้อตกลงคุณธรรมทำให้ไม่มีผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมตั้งแต่ต้น
ทั้งนี้ ทาง สตง. เป็นผู้ติดต่อขอให้องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ส่งผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมโครงการนี้ เนื่องจาก สตง.มีภาระกิจตรวจสอบผู้อื่นล้นมือ จึงต้องการให้มีผู้สังเกตการณ์ภายนอกเข้ามาร่วมให้ความเห็น
อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์จากองค์กรคอร์รัปชันฯ ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่หลังจาก สตง. คัดเลือกผู้รับเหมา ผู้ควบคุมงาน และมี TOR พร้อมแบบก่อสร้างแล้ว จึงไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกำหนดคุณสมบัติและการคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้าง
นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้รับเหมาโครงการนี้มีการหยุดงานเป็นช่วงๆ ในช่วงแรก และเมื่อทำงานต่อก็ทำงานอย่างล่าช้ามาก ซึ่งคณะผู้สังเกตการณ์ได้ทักท้วงมาโดยตลอด จนเมื่อเดือนมกราคม 2568 สตง. แสดงท่าทีเตรียมยกเลิกสัญญาก่อสร้างแต่ก็เงียบไป

นายมานะ กล่าวต่อไปว่า ผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ มีขอบข่ายหน้าที่ในการตรวจสอบการบริหารสัญญาก่อสร้างว่าถูกต้องตรงตามแบบก่อสร้างตามสัญญาหรือไม่ หากมีการแก้แบบ เพิ่มลดงานหรือวัสดุก่อสร้าง สตง. และผู้ควบคุมงานจะต้องแจ้งให้ผู้สังเกตการณ์ทราบ
ส่วนเรื่องการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันทางวิศวกรรมระหว่างการก่อสร้าง เช่น การแก้แบบ เพิ่มลดงาน เปลี่ยนวัสดุก่อสร้าง หรือดึงงานล่าช้าเป็นความรับผิดชอบของ สตง.และบริษัทผู้ควบคุมการก่อสร้างที่ได้รับว่าจ้างเป็นผู้กำกับควบคุมผู้รับเหมา
“โครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact)” เป็นมาตรการสากลที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ นำแนวคิดมาจากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ โดยนำเสนอให้รัฐบาลไทยนำมาใช้ตรวจสอบความโปร่งใสในโครงการเมกกะโปรเจค ตั้งแต่ปี 2558 ปัจจุบันมีผู้ทรงคุณวุฒิอาสาปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์อิสระจำนวน 252 คน ร่วมสังเกตุการณ์ 178 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านล้านบาท ประหยัดงบประมาณประเทศได้ 77,548 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.7 ของงบประมาณรวม
“แต่มีข้อสังเกตว่าในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา โครงการที่รัฐเลือกเข้าร่วมข้อตกลงคุณธรรมกลับมีขนาดและความสำคัญลดน้อยลงเหลือไม่ถึง 1ใน 3 เป็นเรื่องน่าเสียดายโอกาสของประเทศไทยที่จะใช้งบประมาณและทรัพยากรของรัฐให้คุ้มค่า และส่งเสริมการทำงานของภาครัฐให้เปิดเผยโปร่งใสโดยการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน”