
ยิ่งขุดยิ่งงง บริษัทรับเหมาสร้างตึก สตง. 2.1 พันล้าน China Railway No.10 แฉอุปโลกน์พนักงานเป็น "นอมินี" ผู้มีอำนาจลงนามในบริษัท สุดอึ้งรับเหมาก่อสร้างระดับพันล้าน แค่ป้ายชื่อบริษัทยังสะกดผิดๆ ถูกๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการตรวจสอบเชิงลึก บริษัทรับเหมาก่อสร้างตึกสำนักงาน สตง. ความสูง 30 ชั้น มูลค่า 2,100 ล้าน ที่พังครืนลงมาด้วยฤทธิ์แผ่นดินไหว จนเป็นข่าวใหญ่โตอยู่ในขณะนี้ว่า
ล่าสุด เพจ CSI LA ได้เปิดโฉมหน้าบริหารบริษัทรับเหมารายนี้ คือ นายโสภณ มีชัย ที่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 40.80% ของ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) บริษัทที่รับเหมาสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่า นายโสภณน่าจะเป็นวิศวกรระดับสูง หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้าง แต่ความจริงแล้วนายโสภณกลับเป็นแค่พนักงานทั่วไปที่เคยทำงานในบริษัทขายยางรถยนต์และล้อแม็กซ์เท่านั้น

ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างว่า นายโสภณ มีชัย น่าจะถูกอุปโลกน์ขึ้นมาเป็นแค่ “นอมินี” ให้ต่างชาติ และถือหุ้นแทนนายทุนต่างชาติที่แท้จริงเท่านั้น น่าจะมีไอ้โม่งที่ชักใยอยู่เบื้องหลังการนำบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายนี้เข้ามารับเหมางานสร้างตึก สตง. อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบที่ตั้งของบริษัทดังกล่าว ซึ่งระบุในเอกสารจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท พบว่า แจ้งจดชื่อที่ตั้งบริษัทเลขที่ 493 ซอยพุทธบูชา 11 แยก 3 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า สถานที่ตั้งบริษัทดังกล่าวเป็นเพียงตึกแถวธรรมดาเท่านั้น และยังพบด้วยว่า แม้แต่ป้ายชื่อของบริษัทยังทำกันอย่างลวกๆ สะกดผิดสะกดถูกอยู่เลย โดยป้ายชื่อของบริษัทที่ติดหน้าตึก ใช้ชื่อว่า CHAINA RAILWAY NUMBER 10 (THAILAND) CO., LTD. และบริษัทไชน่า เรลเวย์ จัดซื้อ เอเซีย จำกัด หรือ CHAINA RAILWAY PURCHASING ASIA CO,LTD โดยสะกดชื่อ “CHAINA” ผิดชัดเจน แทนที่จะเป็น “CHINA” ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่า จะเป็นการสะกดชื่อผิดธรรมดา เพราะป้ายชื่อของทั้ง 2 ป้ายต่างสะกดผิดทั้งคู่


นอกจากนี้ จากการตรวจสอบสถานที่ตั้งของบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายนี้ ยังพบด้วยว่า เคยปรากฏเป็นข่าวใหญ่โต เมื่อมีข่าวอดีตนายพล ชื่อ พล.อ.ภัสสร อิศรางกูร ณ อยุธยา อายุ 66 ปี ถูกพบเป็นศพถูกยิงตายอยู่ภายในบริษัทนำเข้าส่งออกยางรถยนต์อันเป็นสถานที่ตั้งเดียวกันนี้ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2566 แต่การสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจภายหลังเกิดเหตุจนกระทั่งปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า
