
บอร์ด กสทช. สุดคาใจ "หมอไห่" ประธาน กสทช. ยังดั้นเมฆอุ้มรักษาการเลขาการคู่บารมีแบบไม่สนโลก ไม่แคร์ฝีปาก "น้องไอซ์-รักชนก" แม้มีคำพิพากษาของศาลยืนยันอำนาจสรรหา-แต่งตั้งเป็นของ กสทช. ทั้งคณะ แต่ประธานยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ครั้งที่ 19/2568 ที่มี ศ.คลินิกนพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ เป็นประธาน เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีการหยิบยกกรณีรักษาเลขาธิการ กสทช. ขึ้นสอบถามประธาน กสทช. กรณีที่ยังคงให้ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ดำรงตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช. มาอย่างต่อเนื่องเกิน 5 ปี ซึ่งเกินกว่าระยะเวลาของตำแหน่งเลขาธิการตัวจริงเสียอีก ทั้งที่ก่อนหน้า กสทช. มีมติในการประชุมครั้งที่ 13/2566 ให้เปลี่ยนรักษาการเลขาธิการ กสทช. ไปแล้ว แต่ ประธาน กสทช. ยังไม่ยอมลงนามแต่งตั้งรักษาการเลขาธิการคนใหม่ตามมติ

อีกทั้งที่ประชุม กสทช. นัดพิเศษครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2567 ยังมีมติไม่เห็นชอบให้นายไตรรัตน์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. ถาวรตามผลสรรหาที่ประธานเสนอ พร้อมทั้งให้เร่งรัดกระบวนการสรรหาบุคคลใหม่โดยเร็ว แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ ขณะที่นายไตรรัตน์เอง ก็ยังคงมีปัญหาด้านคุณสมบัติว่าได้รับการต่ออายุในตำแหน่งรองเลขาการ กสทช. หรือไม่ เนื่องจากกระบวนการต่ออายุไม่เป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ และไม่ได้รับความเห็นชอบจากบอร์ด กสทช. ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการร้องเรียนจาก กสทช. เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยมีข้อสงสัยถึงความโปร่งใสในการดำเนินการ และเสนอให้ประธาน กสทช. บรรจุวาระการสรรหาเลขาธิการตามที่กรรมการ 4 คน ได้เสนอไว้ตั้งแต่ 14 มี.ค.67 แต่ประธาน กสทช. ไม่อนุญาตให้นำเรื่องดังกล่าวบันทึกลงในรายงานการประชุม โดยให้เหตุผลว่า ยังไม่มีระเบียบวาระเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม กสทช. และยังคงยืนยันให้รอคำพิพากษาถึงที่สุดก่อน

ทั้งนี้ ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูตร กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ ได้แสดงความกังวลต่อภาพลักษณ์ขององค์กรที่อาจได้รับผลกระทบจากความล่าช้าในการสรรหาเลขาธิการ และได้สอบถามความคิดเห็น พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. ด้านกฎหมาย ซึ่งได้ให้ความเห็นเพียงสั้นๆ ว่า เป็นเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบของประธาน กสทช.
อย่างไรก็ตาม ประธาน กสทช. ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของศาล และยังไม่มีคำสั่งคุ้มครอง จึงไม่ควรจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาอีก แม้ กสทช. จะทักท้วงว่า ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2568 ในคดีที่ นางสุรางคณา วายุภาพ อดีตผู้สมัครเข้ารับการสรรหาตำแหน่ง เลขาธิการ กสทช. ยื่นฟ้องประธาน กสทช. โดยศาลปกครองมีคำวินิจฉัยชัดเจนว่า อำนาจในการบริหารงานบุคคลรวมถึงกระบวนการสรรหาและแต่งตั้งเลขาธิการ กสทช. เป็นของกรรมการ กสทช. ทั้งชุด ไม่ใช่อำนาจของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
แต่กระนั้นประธาน กสทช. ยังคงตัดบทไม่ให้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือ และไม่ให้บันทึกการประชุมเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยอ้างว่ากระบวนการพิจารณาของศาลยังไม่ถึงที่สุด ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจาก กสทช. เสียงข้างมากที่ต้องการเห็นความชัดเจนและความเป็นเอกภาพในการบริหารงานของ กสทช. ชุดปัจจุบัน