
นางอูร์ซูลา ฟอน เดอร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แถลงเมื่อวันศุกร์ว่า สหภาพยุโรป (EU) พร้อมดำเนิน “มาตรการที่จำเป็นทุกประการ” เพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของกลุ่ม ภายหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกา ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากอียูในอัตรา 30% โดยมีผลครอบคลุมสินค้าทุกประเภท

ฟอน เดอร์ ไลเอิน ระบุว่า อียูยังคงมุ่งมั่นเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อหาข้อยุติก่อนถึงเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคม แต่ก็พร้อมใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการในยุโรปจากมาตรการที่ถือว่าไม่เป็นธรรมดังกล่าว
มาตรการภาษีครั้งใหม่นี้ถือเป็นการปรับขึ้นจากอัตราที่ทรัมป์เคยประกาศไว้เมื่อเดือนเมษายน และสร้างความตึงเครียดในความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ
นักการเมืองอียูชี้ “ทรัมป์ตบหน้ายุโรป” เรียกร้องใช้มาตรการตอบโต้ทันที
นายแบร์นด์ ลังเกอ ประธานคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของรัฐสภายุโรป ให้สัมภาษณ์ว่า การตัดสินใจของทรัมป์ครั้งนี้เป็น “การตบหน้าอียู” และแสดงให้เห็นว่าไม่มีความจริงใจในการเจรจา
“ถ้าอยากเจรจาจริง การกระทำจะต้องเป็นอีกแบบหนึ่ง” ลังเกอ กล่าว พร้อมเรียกร้องให้สหภาพยุโรปเริ่มใช้มาตรการตอบโต้ชุดแรกในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ และดำเนินการตอบโต้เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

ในบรรดาทางเลือกที่อียูกำลังพิจารณา หนึ่งในนั้นคือการใช้เครื่องมือทางกฎหมายเพื่อตอบโต้แรงกดดันจากภายนอก (anti-coercion instruments) ซึ่งรวมถึงการห้ามบริษัทสัญชาติอเมริกันเข้าร่วมการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในกลุ่มประเทศสมาชิกอียู
สถานการณ์ล่าสุด ยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อความพยายามของทั้งสองฝ่ายในการหลีกเลี่ยงสงครามการค้าเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานระดับโลกในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกยังเปราะบางจากภาวะเงินเฟ้อและความขัดแย้งในภูมิภาคต่าง ๆ
ที่มา https://www.dw.com/en/eu-vows-response-to-trumps-30-tariff-announcement/live-73254120