
สว.เหล่านี้เป็นคู่ขัดแย้ง มีผลประโยชน์ทับซ้อนกันอยู่หรือไม่? โดย สว. ที่โดนคดีฮั้ว 138 คน ยังไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่มีอำนาจแต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่จะมาเป็นคนตัดสินคดีของคู่ขัดแย้งกับ สว.
…
สังคมตั้งคำถามว่า ทำไม? สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (สำนักงาน กกต.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงทำคำวินิจฉัยคดี พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ล่าช้า! ทั้งที่มีมติเอาผิดมา 3 เดือนแล้ว แถมยังไม่ได้ยื่นศาลฎีกา ตรงนี้จึงสะท้อนประสิทธิภาพการทำงาน ส่งผลเสียต่อกระบวนการทางนิติบัญญัติ
หลังจากเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 68 กกต.มีมติให้ดำเนินคดีกับ พญ.เกศกมล ในความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งและคดีอาญา กรณีใช้คำว่า “ศาสตราจารย์” ลงสมัคร สว. เข้าข่ายหลอกลวงให้เข้าใจผิดในคุณสมบัติ โดยมีอัตราโทษจำคุกเป็นเวลา 10 ปี พร้อมตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี และต้องยื่นศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้งต่อไป

แต่ระยะเวลากว่าที่ กกต. จะจัดทำเอกสารคำวินิจฉัยหลังจากการมีมติ ใช้เวลาเกือบ 3 เดือน ถือว่าล่าช้ามาก จนถึงวันที่ 21 ก.ค.68 ยังไม่ได้ส่งถึงศาลฎีกา และศาลจะต้องใช้เวลาอีกช่วงหนึ่ง ก่อนจะมีคำวินิจฉัยว่าเห็นชอบกับ กกต. หรือไม่
แต่ความล่าช้าดังกล่าว สะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพการทำงานของ กกต. ซึ่งส่งผลเสียต่อกระบวนการทางนิติบัญญัติ เนื่องจากตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำวินิจฉัย สว. คนดังกล่าวยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่างๆในวุฒิสภาได้ตามกฎหมาย โดยวันที่ 22 ก.ค.68 พญ.เกศกมล ได้เข้าไปในที่ประชุม สว. เพื่อโหวตเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
แล้วก็เป็นไปตามคาด เมื่อ สว.ส่วนใหญ่เห็นชอบ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อดีตอธิบดีกรมการขนส่งทางราง และอดีตอธิบดีกรมทางหลวง ในยุคที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็น รมว.คมนาคม ขึ้นเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จากคะแนนเห็นด้วย 143 เสียง ไม่เห็นด้วย 17 เสียง งดออกเสียง 27 ไม่ลงคะแนน 2 เสียง

ขณะเดียวกัน สว.ส่วนใหญ่ก็ตีตก! ร.ต.อ.สุธรรม เชื้อประกอบกิจ อาจารย์สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สังกัดคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า เหตุผลที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน (ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ) เพราะเผลอกรอกประวัติเป็นคณะที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม (ทวี สอดส่อง) อาจเป็นชนวนทำให้ สว.ส่วนใหญ่ไม่เห็นชอบหรือไม่? จากคะแนนเห็นด้วย 39 เสียง ไม่เห็นด้วย 118 เสียง งดออกเสียง 30 เสียง และไม่ลงคะแนน 2 เสียง
หันไปมองที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ปัจจุบันกำลังเร่งสอบสวนสืบสวนเพื่อดำเนินคดีกับ สว. จำนวนหนึ่ง ฐานฟอกเงิน-อั้งยี่ แต่ สว. ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เกี่ยวกับการเข้าไปแทรกแซงก้าวก่ายการทำคดีฮั้ว สว. และศาลรัฐธรรมนูญก็สั่งให้ รมว.ยุติธรรม หยุดทำหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ

ถือได้ว่า สว.เหล่านี้เป็นคู่ขัดแย้ง มีผลประโยชน์ทับซ้อนกันอยู่หรือไม่? โดย สว.ที่โดนคดีฮั้ว 138 คน ยังไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่มีอำนาจแต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่จะมาเป็นคนตัดสินคดีของคู่ขัดแย้งกับ สว. ทั้งนายภูมิธรรม พ.ต.อ.ทวี และอาจรวมถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ กรณีคลิปเสียงด้วย
สว.บุรีรัมย์ สว.สีน้ำเงิน นี่เขาใหญ่โตกันจริงๆ เลย!
เสือออนไลน์