
งวดเข้ามาทุกที! สำหรับคดีฮั้ว สว. - ฟอกเงิน - อั้งยี่..
..
หลังจากคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้รับทราบความคืบหน้าจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายใต้การนำของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ในคดีพิเศษที่ 24/2568 การสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่กระทำความผิดฐานอั้งยี่ฯ ตามมาตรา 209 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ที่มีการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.68 จนถึงปัจจุบัน
ได้มีการสอบพยานที่เกี่ยวข้องไป 90 ปาก มีการจัดทำเหตุการณ์จำลองทั้งสถานที่ใช้ในการเลือ กสว. และกระบวนการคัดเลือกพร้อมขอรับภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องในวันเกิดเหตุจากหลายหน่วยงาน มีการตรวจสอบร่องรอยทางการเงิน พบว่า มีความเชื่อมโยงกัน 1,200 คน ทั้งนี้ เพื่อพิสูจน์ทราบความสัมพันธ์ของกลุ่มขบวนการได้มีการตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์ จากข้อมูลการสืบสวนพบว่ามีผู้ช่วย สว. และ สว. เกี่ยวข้องในพื้นที่ 45 จังหวัด เป็นเหตุให้ดีเอสไอเตรียมออกหมายเรียกผู้สมัคร สว. อีก 1,200 คน เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในฐานะพยาน

แต่เนื่องด้วยทางคดีนี้มีพยานบุคคลค่อนข้างมาก อธิบดีดีเอสไอ จึงได้มอบหน่วยงานภายในสังกัดรวม 10 กองคดี ที่มีพนักงานสอบสวน เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 ส.ค.68 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. เปิดเผยว่า หมายเรียกพยาน 1,200 คน ที่คณะพนักงานสอบสวนได้ออกไปนั้น ส่วนใหญ่คือกลุ่มคนที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องในขบวนการเพื่อเป็น “โหวตเตอร์” หรือ “กลุ่มพลีชีพ” มีปรากฏตั้งแต่ระดับการเลือก สว. ในระดับอำเภอ-จังหวัด และประเทศ เพื่อโหวตเลือกบุคคลที่สมัครสมาชิก สว. ตามโพย โดยไม่เลือกตัวเอง
ถ้าในขั้นตอนการสอบสวนปากคำพยาน รายใดมีการยอมรับหรือให้การเพิ่มเติมว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคนกลุ่มไหน กลุ่มของใคร ก็จะเห็นความชัดเจนเกี่ยวข้องสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความเกี่ยวโยงกับนักการเมืองในพื้นที่ เนื่องจากการสืบสวนยังพบว่า มีเส้นทางการเงินเข้ามาเชื่อมโยงกันมากถึง 45 จังหวัด
อาทิ มีการโอนเงิน-รับโอนเงินระหว่างกันของคนในพื้นที่ นักการเมืองในพื้นที่ และขบวนการจัดฮั้ว เป็นต้น สำหรับพยาน 1,200 คน ที่ต้องสอบปากคำ กระจายตัวอยู่ตามพื้นที่จังหวัดต่างๆ อธิบดีดีเอสไอในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน จึงมอบหมายให้ 10 กองคดี ที่มีพนักงานสอบสวน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์การสอบปากคำในคดีซับซ้อน มีคนจำนวนมาก มีนิติกรรมทางการเงิน เข้ามาดำเนินการรับผิดชอบสอบปากคำ รวบรวมรายงานผลการสอบปากคำของแต่ละคณะทำงานมาหารือความคืบหน้ากันอีกครั้งในที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ

ทั้งนี้ ประเด็นที่จะใช้ในการสอบปากคำพยาน 1,200 คน เริ่มจากผู้สมัคร สว. เหล่านี้ สมัครในกลุ่มอาชีพอะไรบ้าง อยู่กลุ่มใด และให้ชี้แจงเรื่องธุรกรรมการเงินที่พนักงาสอบสวนพบในสำนวนว่าเป็นเงินดำเนินการจากกิจกรรมใด ได้รับโอนมาจากใคร เป็นค่าดำเนินการอะไร สิ่งเหล่านี้พยานต้องชี้แจงให้ชัดเจน
ส่วนการประสานขอเอกสารกับวุฒิสภา เรื่องการแต่งตั้งผู้ช่วย ผู้เชี่ยวชาญ และที่ปรึกษาประจำตัว สว. ของ สว. 200 ราย ที่ดีเอสไอได้เร่งติดตามมาตลอดนั้น ขณะนี้ยังคงไม่ได้รับเอกสารจากวุฒิสภาแต่อย่างใด แต่ไม่ถือเป็นอุปสรรค
โดยพนักงานสอบสวนจะมีการติดตามสอบถามต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการสอบสวนพยานกลุ่มต่างๆ ตามที่มีข้อมูลปรากฏ เพื่อให้มีความรอบคอบและรัดกุมที่สุด โดยคาดว่าภายในเดือน ส.ค.นี้ จะทยอยออกหมายเรียกแกนนำขบวนการฮั้ว สว. มารับทราบข้อกล่าวหา
เสือออนไลน์