
ป.ป.ท. ร่วมกับ บก.ปปป. และ ป.ป.ช. จับกุม “ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร” เรียกรับเงินผู้รับเหมา 7 โครงการ วงเงินงบประมาณรวม 12,774,000 บาท
เมื่อวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 11.00 น. สำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และ นายจิรวัฒน์ สุภาพ ผอ.ปปท. เขต 4 มอบหมายให้ นายสวัสดิ์ นาสมฝัน นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เขต 4 (ส่วนหน้า) ร่วมกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. และสำนักงาน ป.ป.ช. สืบสวนร่วมกันจับกุม ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ทรงยศวัฒนา ตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ 21/2568 วันที่ 21 สิงหาคม 2568 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือบุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และมาตรา 157 และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันนำหมายค้นของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ 3/2568 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เข้าทำการตรวจค้นที่ห้องทำงานปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน

สืบเนื่องจาก สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้เสียหาย ซึ่งประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง โดยได้เข้าร้องเรียนว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหา ตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ผู้เสียหายได้เข้าเป็นคู่สัญญาเป็นผู้รับจ้างในโครงการปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ จำนวน 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท และโครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอน กรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ 2,993,000 บาท รวมทั้งสิ้น 7 โครงการ วงเงินงบประมาณรวม 12,774,000 บาท โดยมีผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ลงนามในสัญญาจ้าง

เมื่อผู้เสียหายได้ดำเนินโครงการแล้วเสร็จทั้ง 7 โครงการแล้ว (วงเงินงประมาณรวม 12,774,000 บาท) จึงได้ส่งมอบงาน โดยมีการเบิกจ่ายเงินและได้รับเงินค่าจ้างเรียบร้อยแล้วจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการที่ 1 - 2 รวมเป็นเงิน 10,278,000 บาท ส่วนโครงการที่เหลืออีก 5 โครงการ วงเงินรวม 2,495,000 บาท ยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้
จนกระทั่งวันเกิดเหตุวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 10.30 น. ผู้เสียหายเดินทางไปพบ ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกรฯ ที่ห้องทำงาน ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ผู้ถูกกล่าวหาได้ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เกี่ยวกับการสั่งจ่ายเงิน ชะลอการสั่งจ่ายเงิน และเรียกรับเงินเป็นค่าดำเนินการในการสั่งจ่ายเงิน โดยแจ้งว่าให้หักเงินร้อยละ 10 ของวงเงินงบประมาณ ให้กับว่าที่ร้อยเอกวัทธิกรฯ แต่ผู้เสียหายไม่ตกลงยินยอม ผู้ถูกกล่าวหา จึงแจ้งว่า จะสั่งการให้ตรวจสอบโครงการย้อนหลังโดยอ้างว่าโครงการไม่ได้มาตรฐาน จนกระทั่งผู้เสียหายต้องจำยอมตกลงที่จะจ่ายเงินให้ โดยได้มีการต่อรองจำนวนเงินที่ต้องจ่ายจนสามารถตกลงกันได้เป็นจำนวน 700,000 บาท เพื่อแลกกับการอนุมัติสั่งจ่ายงบประมาณของโครงการที่เหลือ 5 โครงการ

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ผู้เสียหายได้จ่ายเงินให้ผู้ถูกกล่าวหาไปส่วนหนึ่ง จำนวน 500,000 บาท ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 200,000 บาท จะนัดหมายจ่ายเงินในคราวต่อไป สำนักงาน ป.ป.ท. บก.ปปป. และ สำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้สนธิกำลังร่วมกันสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ และได้เข้าจับกุมผู้ถูกกล่าวหาพร้อมหมายจับและเงินของกลาง จำนวน 200,000 บาท ณ ห้องทำงานปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปปป. ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบพร้อมแจ้งสิทธิ ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 มาตรา 22 และมาตรา 23 โดยได้นำตัวว่าที่ร้อยเอกวัทธิกรฯ ไปทำบันทึกจับกุม ณ สภ.เมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
"ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด"
"ความผิดดังกล่าว เกิดจากการกระทำส่วนบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต้นสังกัด"