
ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย เปิดเผยว่า สารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำกก จังหวัดเชียงราย ภัยร้ายที่แก้ไขยาก ขณะที่น้ำท่วมซ้ำซาก เนื่องจาก..
1. การเจรจากับประเทศเมียนมาไม่เป็นผล.. รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการเจรจากับฝั่งเมียนมา เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2568 มีความเห็นของรัฐบาลเมียนมา คือ
1.1. เมียนมามองว่า การปนเปื้อนสารหนูอาจมาจากธรรมชาติ สารหนูเป็นแร่ธาตุที่มีอยู่แล้วในดินตามธรรมชาติ การชะล้างหน้าดินจากน้ำฝน ทั้งในพื้นที่เมียนมาหรือจากพื้นที่ของไทย ที่เป็นพื้น ที่ป่าเขา มีฝนตกหนักอยู่แล้ว และมีกิจกรรมเปิดหน้าดินเพื่อทำการเกษตรของทั้งสองประเทศ ก็อาจเป็นสาเหตที่ทำให้สารหนูชะลงแหล่งน้ำ
1.2. พื้นที่ที่เป็นเขตรัฐฉานไม่มีกิจกรรมการทำเหมืองแร่ที่ขึ้นทะเบียนและได้รับการอนุญาตจากรัฐบาล และตามข้อกำหนดการทำเหมืองแร่ที่รัฐบาลได้กำ หนดไว้ต้องมีการจัดทำรายงานการประ เมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ (Environmental Impact Assess ment : EIA) และโครงการเหมืองแร่ต้องอยู่ห่างจากริมแม่น้ำไม่น้อยกว่า 300 เมตร อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อนุรักษ์ไม่สามารถทำเหมืองแร่ได้ โดยเมียนมาได้มีการประสานหารือกับผู้แทนรัฐฉานเพื่อให้มีการกำกับดูแลประเด็นดังกล่าวแล้ว
1.3. ผลการตรวจสอบข้อมูลคุณภาพน้ำ ผิวดินในฝั่งเมียนมาเมื่อ เดือนมิถุนายน 2568 จำนวน 3 จุด สารหนูมีค่าไม่เกินมาตรฐานคุณภาพน้ำผิวดินแห่งชาติ (ค่ามาตรฐานสำหรับสุขภาพมนุษย์ กำหนดสารหนู (As) มีค่าไม่เกินกว่า 0.05 มิลลิกรัมต่อลิตร) โดยจุดที่ 1 บริเวณต้นแม่น้ำกก สารหนูมีค่า 0.026 มก.ต่อ ล. จุดที่ 2 มีค่า 0.012 มก.ต่อ ล. และจุดที่ 3 ใกล้ชายแดนไทยมีค่า 0.013 มก.ต่อ ล. และจะมีการตรวจสอบเป็นระยะต่อเนื่องต่อไป (มาตรฐานสารหนูในแหล่ง น้ำผิวดิน ของประเทศไทยกำหนดไว้ต้องไม่เกิน 0.01 มก. ต่อ ล.)
1.4. เมียนมาเน้นว่าไม่มีการอนุญาตให้ทำเหมืองในพื้นที่แม่น้ำกก ซึ่งหากมีการทำเหมืองตามที่ไทยกล่าวอ้างจริง จะเป็นเหมืองที่ผิดกฎหมายและไม่ได้รับอนุญาตจากเมียนมา ทำให้เมียนมาไม่สามารถกำกับดูแลการประกอบการและควบคุมได้ เมียนมาจึงมีข้อเสนอว่า ให้ฝ่ายไทยควบคุมการส่งออกสารเคมีที่ใช้ในการทำเหมืองจากไทยไปเมียน มา เพื่อให้เหมืองผิดกฎหมายเหล่านี้ไม่สามารถประกอบการได้ ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาการทำเหมือง

2. ประเทศไทยไม่สามารถนำภาพถ่ายดาวเทียมของไทยไปใช้ประกอบการเจรจาได้ เนื่องจากพื้นที่ที่คาดว่าเป็นเหมืองแร่ดังกล่าวอยู่ในเขตเมียนมา การแสดงภาพถ่ายดาวเทียมโดยหน่วยงานรัฐของไทยเป็นผู้ดำเนินการ อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเป็นประเด็นความมั่นคงของเมียนมาและอาจถือว่าไทยได้ทำการการสอดแนมหรือจารกรรมข้อมูลของเมียนมาได้
3. ประเทศไทยคงต้องใช้เวทีอาเซียนในการเจรจา โดยใช้เวทีความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน (ASEAN AGREEMENT ON DISASTER MANAGEMENT AND EMERGENCY RESPONSE) ในการหารือ

4. อาเซียนยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับมลพิษข้ามแดนเหมือนในสหภาพยุโรป ที่มี EU transboundary pollution law ทำให้สามารถแก้ไขปัญหามลพิษข้ามประเทศได้ ดังนั้น จึงควรผลักดันให้เกิดกฎหมายมลพิษข้ามแดนระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียนต่อไป
5. ขณะที่ยังไม่สามารถจัดการหรือระงับการปล่อยสารหนูจากต้นทางได้ จึงมีความจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องหามาตรการป้องกัน หรือลดหรือบรรเทาให้สารหนูปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมของจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ใกล้เคียงให้น้อยที่สุด เช่น การจัดทำฝายชะลอน้ำชั่วคราวที่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศน้อยที่สุดหลายๆ จุด และนำตะกอนที่ปนเปื้อนสารหนูไปจัดการอย่างปลอดภัย เพื่อไม่ให้สารหนูปนเปื้อนแพร่กระจายมากยิ่งขึ้น
