
สำนักข่าวอิศรา ได้รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจาก สำนักงาน ป.ป.ช. ว่า เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ที่ผ่านมาองค์คณะไต่สวนคดีกล่าวหาผู้บริหารระดับสูงในบริษัท พีทีที.กรีนเอเนอร์ยี่ฯ หรือ PTT.GE บริษัทลูกของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ลงทุนปลูกปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซีย แต่พบความไม่ชอบมาพากลในการลงทุน และมีการจ่ายค่านายหน้าแพงเกินจริงกว่า 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งคณะเป็นองค์คณะไต่สวน ได้มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ข้อกล่าวหา นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรองผู้จัดการบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ในฐานะ ผอ.โครงการพัฒนาธุรกิจน้ำมันปาล์ม ในโครงการจัดหาที่ดินเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซียของบริษัท พีทีที.กรีน เอเนอร์ยี่ฯ (PTT.GE) กับพวกตกไป

แหล่งข่าวกล่าวว่า โดยขั้นตอนต่อไปจะต้องรอเจ้าหน้าที่สรุปสำนวนและความเห็นขององค์คณะไต่สวน และนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้มีมติอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
“การที่องค์คณะไต่สวนซึ่งประกอบไปด้วย คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งชุด มีมติเสียง 6 ต่อ 1 โดยเสียงข้างน้อย คือ นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ เท่ากับว่าคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินเพื่อปลูกปาล์มที่อินโดนีเซียของ ปตท. ซึ่งไต่สวนมานานกว่า 10 ปี และมีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วถึง 16 คน ยุติลงโดยไม่สามารถเอาผิดใครได้”
แหล่งข่าวกล่าวว่า ผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ได้กล่าวหา นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. และพวก ซึ่งเป็นผู้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. สอบสวนคดีดังกล่าวข้างต้น ได้ถูกร้องเรียนว่าขายที่ดินที่ซื้อมาสำหรับปลูกปาล์มที่อินโดนีเซีย ทำให้ ปตท. ได้รับความเสียหาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นของ ป.ป.ช. เช่นกัน

สำหรับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดปัจจุบัน มี 7 ราย ประกอบด้วย นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช., นางสุวณา สุวรรณจูฑะ, นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ, นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์, นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง, นายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช.